หนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน
กฟผ. จัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน
กฟผ. เริ่มดำเนินการโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน ตั้งแต่ปี 2546 โดยการรับเป็นผู้อุปถัมภ์ โรงเรียนในฝัน ที่ตั้งอยู่ใกล้หน่วยงาน กฟผ. ทั่วประเทศ จำนวน 32 โรงเรียน จากโรงเรียนในโครงการ 921 โรงเรียน โดยจำแนกได้ดังนี้ ภาคกลาง 11 โรงเรียน ภาคเหนือ 6 โรงเรียน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 โรงเรียน ภาคตะวันออก 1 โรงเรียน ภาคใต้ 7 โรงเรียน วัตถุประสงค์ เพื่อให้เด็กในอำเภอชนบทได้มีโอกาสทางการศึกษาเทียบเคียงกับโรงเรียนชั้นนำและสามารถเป็นแบบอย่างการจัดการศึกษาให้กับโรงเรียนที่อยู่ในชุมชนเดียวกันและใกล้เคียงได้ การดำเนินงาน กฟผ. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน จำนวน 8 ท่าน
โดยมี ชกค. เป็นประธานกรรมการ อทบ. เป็นเลขานุการ และกรรมการจากผู้แทนสายงานจำนวน 6 ท่าน งบประมาณ กฟผ. จัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการตลอดเวลา 3 ปี เป็นเงิน 137 ล้านบาท ดังนี้ ปี 2547 จำนวน 52 ล้านบาท โดยสนับสนุนด้าน ICT แหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการภาษาอังกฤษ อาคารเรียน ห้องน้ำและโรงอาหาร ปี 2548 จำนวน 52 ล้านบบาท เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้มีระบบบริหารจัดการที่ดี จัดกระบวนการเรียนรู้ให้เด็กคิด วิเคราะห์เป็น สร้างเสริมศักยภาพผู้บริหารและครูให้เป็นมืออาชีพ ตลอดจนส่งเสริมให้โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมที่ดี น่าอยู่และน่าเรียน ปี 2549 จำนวน 33 ล้านบาท โดยพิจารณาจัดสรรให้โรงเรียนละ 1 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาห้องปฏิบัติการต่างๆ ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นส่งเสริมครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความสามารถในการบริหาร จัดการและกระบวนการเรียนรู้เชิงบูรญาการ ตลอดจนจัดค่ายเยาวชน ปี 2550 - 2551 จำนวนปีละ 5 ล้านบาท รวม 10 ล้านบาท
โดยพิจารณาจัดสรรสนับสนุนให้ โรงเรียนฯ ละ 156,250.00 บาท เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาโรงเรียน เนื่องจากโรงเรียนที่ กฟผ. ให้การอุปถัมภ์ที่ผ่านมา 3 ปี ได้รับการรับรองการเป็นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนในฝัน จึงต้องรองรับการดูงาน การเป็นพี่เลี้ยง และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับโรงเรียนที่อยู่บริเวณชุมชนเดียวกัน
1.โรงเรียนในฝันที่ กฟผ. รับเป็นผู้อุปถัมภ์ จำนวน 32 โรงเรียน ได้รับการรับรองคุณภาพสามารถ เป็นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนในฝันได้ครบทุกโรงเรียน 2.คุณภาพนักเรียนโรงเรียนในฝันที่ปรากฏคือ นักเรียนมีนิสัยใฝ่รู้ สามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ สร้างงาน สร้างอาชีพ สามารถ นำเสนอผลงานได้อย่างสร้างสรรค์ 3.ครูปรับเปลี่ยนวิถีการสอนไปสู่การจัดการการเรียนรู้ที่ไม่ใช่เรียนจากตำราเพียงอย่างเดียว 4.โรงเรียนมีการพัฒนาห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ และห้องสืบค้นเพื่อการเรียนรู้ให้มีสื่อการเรียนรู้ทั้งที่เป็น Solft ware และ Hard ware เ พื่อให้นักเรียน เรียนรู้ได้ดีขึ้น 5.โรงเรียนได้พัฒนาสิ่งแวดล้อม อาคาร สถานที่ เป็นระเบียบ ทันสมัย บรรยากาศอบอุ่น ส่งเสริม ให้นักเรียนอยากมาโรงเรียน 6.ผู้ปกครองนักเรียนในชุมชนโดยรอบโรงเรียนในฝัน มีความเชื่อมั่นในคุณภาพของโรงเรียนมากขึ้น โดยในปี 2549 มีนักเรียนสมัครเข้าเรียนจนบางแห่งไม่สามารถรับได้หมด อนึ่ง ในช่วงที่ผ่านมาคณะกรรมการโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน กฟผ. ได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนในฝัน ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 11 โรงเรียน ซึ่งจะเห็นได้ว่าโรงเรียนส่วนใหญ่มีการพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการประเมินข้างต้น นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงเรียนในฝันที่ กฟผ. อุปถัมภ์ยังสามารถเป็นแบบอย่างการจัดการศึกษา และใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับโรงเรียน หน่วยงานที่อยู่ในบริเวณชุมชนเดียวกันได้ และยังจะช่วยให้ระบบการศึกษาไทยพัฒนายิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลแก่เด็กและเยาวชนไทย