ซีพี ออลล์ : 7 Go Green “ลด และ เลิกใช้ถุงพลาสติก”
“ลด และ เลิกใช้ถุงพลาสติก” เจตนารมณ์แน่วแน่ของเซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมกับทุกคนในสังคม
การตระหนักรู้คุณค่าของสิ่งแวดล้อม นับเป็นสิ่งที่สำคัญและควรได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเพิ่มการรับรู้ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งความร่วมมือจากทุกคนในสังคมจะนำไปสู่ยุคของสังคมสีเขียวอย่างแท้จริง ที่จะร่วมกันคนละไม้คนละมือดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อลูกหลานไปได้อีกยาวนาน
โดยสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างการลดและเลิกใช้ถุงพลาสติก เนื่องจากใช้ง่าย สะดวกสบาย ใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้งทำให้จำนวนขยะจากถุงพลาสติกเพิ่มขึ้นทุกวันและที่สำคัญเป็นสาเหตุหนึ่งของโลกร้อน บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย จึงได้ดำเนินโครงการรณรงค์ลด และเลิกใช้ถุงพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านโครงการ 7 Go Green ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี ด้วยมุ่งหวังที่จะสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชน สังคม และประเทศชาติ โดยประกาศเจตนารมณ์ “ลด และ เลิกใช้ถุงพลาสติก” ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ ตามปณิธานอันมุ่งมั่นของซีพี ออลล์ “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” ที่จะร่วมพัฒนาชุมชนและสังคมควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ด้าน นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า “ซีพี ออลล์ประกาศเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะลดและเลิกการใช้ถุงพลาสติกที่ร้านเซเว่นฯ และขอเชิญชวนคนไทยร่วมกันลดและเลิกใช้ถุงพลาสติกร่วมกันโดยลดการใช้ถุงพลาสติกวันละถุงก็จะช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้ สำหรับที่ผ่านมาบริษัทได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการที่ร้านเซเว่นฯ เป็นอย่างดี ซึ่งทุกคนต่างก็ตระหนักถึงผลกระทบของขยะถุงพลาสติกที่มีต่อโลกของเรา ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ไม่รับถุงพลาสติกกับโครงการปฏิเสธถุงได้แต้ม โดยร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศจะให้แต้ม 10 แต้มกับลูกค้าที่ชำระเงินผ่านบัตร 7 Value Card และปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติก
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลดการใช้ถุงพลาสติกที่บริษัทได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง หลากหลายโครงการ อาทิ โครงการปฏิเสธถุง…ได้ใจ, ใช้ถุงผ้า...บอกลาถุงพลาสติก เป็นต้น ที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์กรปกครองในท้องถิ่น อาทิ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อุทยานแห่งชาติบนเกาะต่างๆ มูลนิธิโลกสีเขียว ในการรณรงค์ลดและเลิกใช้ถุงพลาสติกไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้ง โรงพยาบาล โรงเรียน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย ปี 2560 สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกได้กว่า 24 ล้านใบ นอกจากนี้ยังได้รณรงค์ในพื้นที่เกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น เกาะลันตา เกาะยาวน้อย-เกาะยาวใหญ่ - เกาะหลีเป๊ะ เกาะพีพี เกาะเต่า และเกาะเสม็ด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการที่ร้านเซเว่นฯ เป็นอย่างดี ซึ่งทุกคนต่างตระหนักถึงผลกระทบของขยะถุงพลาสติก ที่มีต่อโลก”
ด้านนายมนัส พิกุลแย้ม เป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้บริการร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น และปฏิเสธการรับถุงพลาสติกใส่ของจากทางร้าน โดยนายมนัส ให้ความเห็นว่า “ปกติแล้วจะไม่ค่อยได้ใช้ถุงพลาสติกในชีวิตประจำวันเท่าไร เพราะรู้ถึงพิษภัยและปัญหาของถุงพลาสติกเป็นอย่างดีว่าย่อยสลายยาก เพราะธรรมดาแม่บ้านไปจ่ายกับข้าวก็จะถือถุงผ้าไปใส่ของอยู่เสมอและสะดวกรวมเป็นถุงเดียวใส่ของมา แต่ถ้าหากว่ามีถุงพลาสติกกลับมาด้วย ก็จะเก็บไว้และนำกลับมาใช้สำหรับทิ้งขยะในครัวเรือน จึงเห็นด้วยกับการรณรงค์ และการประกาศเจตนารมณ์ “ลด และ เลิก ใช้ถุงพลาสติก” ของเซเว่น อีเลฟเว่น เพราะจะช่วยให้คนไทยตระหนักถึงพิษภัยของขยะถุงพลาสติกมากขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้ 100% เพราะคนยังมีความจำเป็นในการใช้ถุงพลาสติกอยู่ แต่หากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือกันในการลดใช้และผลิตถุงพลาสติกให้น้อยลงและจริงจังมากกว่านี้ ถึงแม้จะไม่ได้ 100% ก็ค่อยเป็นค่อยไปก็ยังดีครับ”
ขณะที่ น.ส.วรรศิกา ญาณสิทธิ หนึ่งในลูกค้าที่ใช้บริการจากร้านสะดวกซื้อของเซเว่น อีเลฟเว่นเผยว่า รู้สึกยินดีมากที่เกิดโครงการนี้เพราะเคยได้ยินว่าประเทศอื่นๆ เริ่มลดใช้ถุงพลาสติกกัน และตระหนักถึงปัญหาของถุงพลาสติกที่มีต่อสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว จึงอยากสนับสนุนให้มีการรณรงค์แบบนี้ต่อไปให้แพร่หลาย เพราะบางทีเวลาไปเที่ยวข้างนอกหรือไปช้อปปิ้งก็จะนำถุงผ้าติดไปด้วยทุกครั้ง การจัดกิจกรรมแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าจริงๆ แล้วคนไทยบางส่วนอาจจะยังไม่ตระหนักถึงพิษภัยและปัญหาจริงๆ ของถุงพลาสติกว่ามันคืออะไร พอมารณรงค์อย่างนี้ก็เหมือนกับได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์และช่วยลดขยะที่เกิดจากถุงพลาสติกไปด้วย” การพัฒนาสังคมควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าและช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยว อันมีความสำคัญรวมทั้งเป็นแหล่งเศรษฐกิจของประเทศ จะทำให้สังคมอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน