?ไทยเบฟ? ร่วมกิจกรรม ?ฝันใหญ่ในซอยเล็ก? ครั้งที่ 2 ส่งเสริม-อนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ปรับภูมิทัศน์ย่านกะดีจีน คลองสาน
ชื่อโครงการ : ?ไทยเบฟ? ร่วมกิจกรรม ?ฝันใหญ่ในซอยเล็ก? ครั้งที่ 2 ส่งเสริม-อนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ปรับภูมิทัศน์ย่านกะดีจีน คลองสาน
ชื่อองค์กร : บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
เกี่ยวกับองค์กร : บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (?ไทยเบฟ?) ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยในปี 2546 โดยมีจุดประสงค์เพื่อรวมกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเบียร์และสุราชั้นนำของไทยที่เป็นของผู้ถือหุ้นและผู้ร่วมทุนรายอื่นๆ เข้ามาเป็นกลุ่มบริษัท ต่อมาในปี 2549 ไทยเบฟได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (?SGX?) ภายหลังจากจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ไทยเบฟได้ขยายขอบเขตธุรกิจจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปสู่ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์และอาหาร เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า เพิ่มประสิทธิผลในช่องทางการขนส่งรวมถึงกระจายความเสี่ยงของกิจการ ปัจจุบันไทยเบฟไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำในประเทศไทย แต่ยังเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในเอเชียอีกด้วย โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 สายธุรกิจ ได้แก่ สุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร
เว็บไซต์ :
วัตถุประสงค์ : 1.เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมชุมชนย่านกะดีจีน ? คลองสาน
2.สร้างแรงกระตุ้นให้ชุมชน ประชาชนทั่วไปหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้เกิดความร่วมมือในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม
ระยะเวลา : 1 วัน
สถาที่ : ชุมชนย่านกะดีจีน เขตคลองสาน
รูปแบบโดยย่อ :
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชนเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์ชุมชนย่านกะดีจีน เขตคลองสาน
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชนเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์ชุมชนย่านกะดีจีน เขตคลองสาน
รายละเอียด :
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เล็งเห็นคุณค่าวัฒนธรรมของชุมชนเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์ชุมชนย่านกะดีจีน เขตคลองสาน ซึ่งประกอบไปด้วยชุมชนเก่าแก่และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ได้แก่ ชุมชนวัดประยูรวงศ์ ชุมชนวัดกัลยาณ์ ชุมชนบุปผาราม ชุมชนโรงคราม ชุมชนกุฎีจีน เพื่อพัฒนาการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน รวมทั้งอนุรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมหลากหลายเชื้อชาติ เมื่อวันก่อน เริ่มต้นด้วย คณะผู้บริหารไทยเบฟ ได้แก่ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คุณวิเชฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คุณธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก คุณสุรพล อุทินทุ กรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจมาร์เก็ตติ้ง จำกัด คุณนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และคุณประโภชฌ์ สภาวสุ รองผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอกได้เข้ากราบนมัสการท่านพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อรับฟังแนวความคิดในการพัฒนาพัฒนาย่านกะดีจีน อย่างยั่งยืน โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง ซึ่งท่านพระพรหมบัณฑิต ได้ให้แนวทางในการพัฒนาว่า ?สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน โดยสร้างความเข้าใจในรากเหง้าประวัติความเป็นมาของชุมชน รวมทั้งเข้าใจที่มาของสมาชิกในชุมชนที่มีความหลากหลายทางด้าน เชื้อชาติ และศาสนา เพื่อให้การอยู่ด้วยกันเป็นไปอย่างผสมกลมกลืน ในขณะเดียวกันก็ไม่ปิดกั้นสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามา ชุมชนที่เข้มแข็งจะสามารถผสมผสานสิ่งเดิมกับสิ่งใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับพระบรมธาตุมหาเจดีย์และพิพิทธภัณฑ์พระประยูรภัณฑาคาร ภายในวัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร ที่ได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับปรุงบูรณะ โดยคงไว้ซึ่งภูมิปัญญาทางสถาปัตยกรรมดั้งเดิมสมัยอยุธยา จนได้รับรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมระดับภูมิภาคปี 2556 จากองค์การยูเนสโก? จากนั้น คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ได้นำคณะผู้บริหารและพนักงาน ไปร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์ ณ ตรอกถาน ชุมชนวัดประยูรวงศ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนย่านกะดีจีน ภายใต้โครงการ ?ฝันใหญ่ในซอยเล็ก ครั้งที่ 2? โดยการเพนท์กำแพงชุมชน ซึ่งเลือกใช้ภาพที่บ่งบอกสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ได้แก่ รูปหมูออมสินสีแดง เป็นสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านที่ผลิตขายในชุมชนมาเป็นเวลานาน ก่อนที่คณะผู้บริหารจะไปเข้าร่วมประชุมและเสนอแนะแนวทางการพัฒนาร่วมกับสมาชิกในชุมชน เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กล่าวว่า ?การที่ไทยเบฟเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนย่านกะดีจีน เกิดจากความตั้งใจแรกเริ่มของ คุณเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่ได้เคยถวายงานสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี และมีความผูกพันกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดี จึงตั้งใจที่จะนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่บอกเล่ามารุ่นต่อรุ่น มาสานต่อและอนุรักษ์ไว้ ในฐานะภาคเอกชนที่มองในมุมของธุรกิจ พื้นที่นี้สามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตคึกคักมากขึ้นได้ โดยจะต้องหาจุดเด่นเอกลักษณ์หรือจุดขายของพื้นที่ให้ได้ก่อน ซึ่งจะต้องมีกระบวนการบริหารจัดการที่ดี เริ่มต้นจะต้องมีศูนย์กลางของชุมชน เพื่อเก็บข้อมูลและประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด รวมทั้งเอกลักษณ์ของชุมชนต่างๆ เช่น ขนมฝรั่งกุฎีจีน หรือ หมูกระดาษออมสิน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งใกล้ตัวของชุมชนที่ภาคเอกชนอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนในระยะยาว สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนา คือ สมาชิกชุมชน แนวคิด และงบประมาณ ไทยเบฟยินดีที่จะเป็นตัวกลางประสานงานไปยังภาคเอกชนต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุน ทั้งนี้ แนวคิดเหล่านั้นต้องเป็นการตกผลึกของคนในชุมชน เพื่อให้เกิดการเริ่มต้นขับเคลื่อน และต่อยอดเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในระยะยาวต่อไป? นอกจากนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ยังได้สนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชนในพื้นที่ โดย คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี เป็นประธานในการส่งมอบตู้หนังสือ พร้อมหนังสือมูลค่ารวม 100,000 บาท แก่ห้องสมุดอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยมี คุณอุไรวรรณ สมสมัย ผู้จัดการอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นผู้รับมอบ ?กะดีจีน? หรือ ?กุฎีจีน? เป็นย่านประวัติศาสตร์ที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร มีความแตกต่างทั้งคติ ความเชื่อ ความศรัทธา รวมถึงศาสนา ได้ชื่อว่าเป็นย่าน ?3 ศาสนา 4 ความเชื่อ? (พุทธเถรวาท พุทธมหายาน คริสต์ และมุสลิม) ที่มีความใกล้ชิดและเอื้ออาทรต่อกันมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบรี จวบจนปัจจุบัน ประกอบด้วยชุมชนเล็กๆ 10 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนวัดกัลยาณ์ ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนวัดประยุรวงศ์ ชุมชนบุปผาราม ชุมชนกุฎีขาว ชุมชนโรงคราม ชุมชนสวนสมเด็จย่า ชุมชนตรอกช่างนาค-สะพานขาว ชุมชน ท่าดินแดง ชุมชนคลองสานซีกตะวันออก
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เล็งเห็นคุณค่าวัฒนธรรมของชุมชนเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์ชุมชนย่านกะดีจีน เขตคลองสาน ซึ่งประกอบไปด้วยชุมชนเก่าแก่และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ได้แก่ ชุมชนวัดประยูรวงศ์ ชุมชนวัดกัลยาณ์ ชุมชนบุปผาราม ชุมชนโรงคราม ชุมชนกุฎีจีน เพื่อพัฒนาการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน รวมทั้งอนุรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมหลากหลายเชื้อชาติ เมื่อวันก่อน เริ่มต้นด้วย คณะผู้บริหารไทยเบฟ ได้แก่ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คุณวิเชฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คุณธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก คุณสุรพล อุทินทุ กรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจมาร์เก็ตติ้ง จำกัด คุณนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และคุณประโภชฌ์ สภาวสุ รองผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอกได้เข้ากราบนมัสการท่านพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อรับฟังแนวความคิดในการพัฒนาพัฒนาย่านกะดีจีน อย่างยั่งยืน โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง ซึ่งท่านพระพรหมบัณฑิต ได้ให้แนวทางในการพัฒนาว่า ?สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน โดยสร้างความเข้าใจในรากเหง้าประวัติความเป็นมาของชุมชน รวมทั้งเข้าใจที่มาของสมาชิกในชุมชนที่มีความหลากหลายทางด้าน เชื้อชาติ และศาสนา เพื่อให้การอยู่ด้วยกันเป็นไปอย่างผสมกลมกลืน ในขณะเดียวกันก็ไม่ปิดกั้นสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามา ชุมชนที่เข้มแข็งจะสามารถผสมผสานสิ่งเดิมกับสิ่งใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับพระบรมธาตุมหาเจดีย์และพิพิทธภัณฑ์พระประยูรภัณฑาคาร ภายในวัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร ที่ได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับปรุงบูรณะ โดยคงไว้ซึ่งภูมิปัญญาทางสถาปัตยกรรมดั้งเดิมสมัยอยุธยา จนได้รับรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมระดับภูมิภาคปี 2556 จากองค์การยูเนสโก? จากนั้น คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ได้นำคณะผู้บริหารและพนักงาน ไปร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์ ณ ตรอกถาน ชุมชนวัดประยูรวงศ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนย่านกะดีจีน ภายใต้โครงการ ?ฝันใหญ่ในซอยเล็ก ครั้งที่ 2? โดยการเพนท์กำแพงชุมชน ซึ่งเลือกใช้ภาพที่บ่งบอกสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ได้แก่ รูปหมูออมสินสีแดง เป็นสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านที่ผลิตขายในชุมชนมาเป็นเวลานาน ก่อนที่คณะผู้บริหารจะไปเข้าร่วมประชุมและเสนอแนะแนวทางการพัฒนาร่วมกับสมาชิกในชุมชน เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กล่าวว่า ?การที่ไทยเบฟเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนย่านกะดีจีน เกิดจากความตั้งใจแรกเริ่มของ คุณเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่ได้เคยถวายงานสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี และมีความผูกพันกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดี จึงตั้งใจที่จะนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่บอกเล่ามารุ่นต่อรุ่น มาสานต่อและอนุรักษ์ไว้ ในฐานะภาคเอกชนที่มองในมุมของธุรกิจ พื้นที่นี้สามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตคึกคักมากขึ้นได้ โดยจะต้องหาจุดเด่นเอกลักษณ์หรือจุดขายของพื้นที่ให้ได้ก่อน ซึ่งจะต้องมีกระบวนการบริหารจัดการที่ดี เริ่มต้นจะต้องมีศูนย์กลางของชุมชน เพื่อเก็บข้อมูลและประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด รวมทั้งเอกลักษณ์ของชุมชนต่างๆ เช่น ขนมฝรั่งกุฎีจีน หรือ หมูกระดาษออมสิน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งใกล้ตัวของชุมชนที่ภาคเอกชนอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนในระยะยาว สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนา คือ สมาชิกชุมชน แนวคิด และงบประมาณ ไทยเบฟยินดีที่จะเป็นตัวกลางประสานงานไปยังภาคเอกชนต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุน ทั้งนี้ แนวคิดเหล่านั้นต้องเป็นการตกผลึกของคนในชุมชน เพื่อให้เกิดการเริ่มต้นขับเคลื่อน และต่อยอดเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในระยะยาวต่อไป? นอกจากนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ยังได้สนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชนในพื้นที่ โดย คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี เป็นประธานในการส่งมอบตู้หนังสือ พร้อมหนังสือมูลค่ารวม 100,000 บาท แก่ห้องสมุดอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยมี คุณอุไรวรรณ สมสมัย ผู้จัดการอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นผู้รับมอบ ?กะดีจีน? หรือ ?กุฎีจีน? เป็นย่านประวัติศาสตร์ที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร มีความแตกต่างทั้งคติ ความเชื่อ ความศรัทธา รวมถึงศาสนา ได้ชื่อว่าเป็นย่าน ?3 ศาสนา 4 ความเชื่อ? (พุทธเถรวาท พุทธมหายาน คริสต์ และมุสลิม) ที่มีความใกล้ชิดและเอื้ออาทรต่อกันมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบรี จวบจนปัจจุบัน ประกอบด้วยชุมชนเล็กๆ 10 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนวัดกัลยาณ์ ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนวัดประยุรวงศ์ ชุมชนบุปผาราม ชุมชนกุฎีขาว ชุมชนโรงคราม ชุมชนสวนสมเด็จย่า ชุมชนตรอกช่างนาค-สะพานขาว ชุมชน ท่าดินแดง ชุมชนคลองสานซีกตะวันออก
สรุปผล :
ไทยเบฟ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมเก่าแก่ ในทุกภาคส่วน ทั้งชุมชน หน่วยงานต่างๆ และประชาชนทั่วไป
ไทยเบฟ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมเก่าแก่ ในทุกภาคส่วน ทั้งชุมชน หน่วยงานต่างๆ และประชาชนทั่วไป