ตอบแทนสังคมในแบบฉบับของ “ล็อกซเล่ย์”
การช่วยเหลือเกื้อกูลสังคมรอบข้าง และผู้ด้อยโอกาส ผ่านกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ แม้จะไม่ใหญ่โตตูมตามเหมือนเช่นที่อื่น แต่ก็ค่อยเป็นค่อยไป เน้นความสม่ำเสมอ และยั่งยืนตามแบบฉบับของล็อกซเล่ย์
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) อยู่ยืนยงมาได้นานกว่า 81 ปี ไม่ใช่แค่มีธุรกิจหลากหลาย แต่สิ่งสำคัญคือ “ความน่าเชื่อถือ” หนึ่งในส่วนประกอบหลักที่สร้างสม “ความน่าเชื่อถือ” ให้กับล็อกซเล่ย์ นั่นคือ การช่วยเหลือเกื้อกูลสังคมรอบข้าง และผู้ด้อยโอกาส ผ่านกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ แม้จะไม่ใหญ่โตตูมตามเหมือนเช่นที่อื่น แต่ก็ค่อยเป็นค่อยไป เน้นความสม่ำเสมอ และยั่งยืนตามแบบฉบับของล็อกซเล่ย์
“ก่อนจะช่วยคนอื่น เราต้องดูแลพนักงานให้ดีก่อน เมื่อพนักงานมีความสุข เราจึงเผื่อแผ่ไปยังสังคมรอบข้าง และสังคมโดยรวมต่อไป ดังนั้นเราจึงปลูกฝังให้พนักงานมีจิตอาสา เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์กิจกรรมช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาส” นายจรัสพงศ์ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคม บมจ.ล็อกซเล่ย์ กล่าวถึงแนวคิดในการดูแลพนักงานและชุมชน ตัวอย่างกิจกรรมตอบแทบสังคมที่ผ่านมา อาทิ ล็อกซเล่ย์ ร่วมกับสมาชิกเครือข่ายจิตอาสาและชุมชนตลาดปีนังทำโครงการ “พลิกฟื้นพื้นที่ เพื่อชุมชนอยู่ยั่งยืน” สร้างพื้นที่การเรียนรู้ระหว่างบริษัทกับชุมชนตลาดปีนัง และพัฒนาต่อยอดเป็นโครงการ “ชุมชนอยู่ยั่งยืน อย่างมีส่วนร่วม” โดยจัดกิจกรรมลักษณะองค์กรภาคี ขยายความร่วมมือจากชุมชนสู่ชุมชนไปยัง ชุมชนพัฒนา70ไร่ และชุมชนคลองเตย เป็นต้น
พร้อมกันนี้ ล็อกซเล่ย์ ได้จ้างงานคนพิการให้เป็นพนักงานบริษัทในตำแหน่งต่างๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้พิการแต่ละคน อีกทั้งมอบทุนเพื่อสนับสนุนการเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ และจัดซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาของนักกีฬาคนพิการ ผ่านสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้โครงการ “ล็อกซเล่ย์-เอเอสเอ็ม สปอร์ต ฮีโร่” มาเป็นเวลากว่า 9 ปีแล้ว นอกจากนี้ ล็อกซเล่ย์ยังให้ความสำคัญกับเยาวชนในชุมชน โดยมอบทุนสนับสนุนแก่ มูลนิธิดวงประทีป เพื่อใช้ในการส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาความเป็นอยู่ของเด็กยากไร้ในชุมชนคลองเตย รวมทั้งมอบขนมเนื่องในวันเด็กปี’63 แก่น้องๆ เยาวชนกว่า 30 ชุมชนในเขตคลองเตย เป็นประจำทุกปี
โดยกิจกรรมล่าสุด ล็อกซเล่ย์ พาน้องๆ ผู้พิการทางสายตา เปิดประสบการณ์ "สัมผัสม้า-สัมผัสใจ" ภายใต้กิจกรรม “Buddy Pony Tales” เพื่อสานต่อนโยบายของฝ่ายฯ และกลุ่มพนักงานจิตอาสาล็อกซเล่ย์ ที่ต้องการแบ่งปันความสุขและส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้แก่น้องๆ ผู้พิการทางสายตากว่า 50 คน จาก มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้มีโอกาสเดินทางไปเปิดประสบการณ์เรียนรู้ พร้อมทำกิจกรรมแบบใกล้ชิดกับม้า เป็นการเสริมสร้างทักษะด้านการรับรู้ของน้องๆ ผ่านการสัมผัสม้าในกิจกรรมต่างๆ อาทิ การอาบน้ำให้ม้า การแปรงขนม้า รวมถึงการได้ขี่ม้าที่จะช่วยสร้างความภาคภูมิใจและสร้างความมั่นใจให้กับน้องๆ มากยิ่งขึ้น และในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ล็อกซเล่ย์ ฝ่ายกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคมและกลุ่มเคมีภัณฑ์ของล็อกซเล่ย์ ได้ผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือออกมาแจกจ่ายให้กับพนักงานทุกคนในบริษัท และยังเผื่อแผ่ไปยังชุมชนตลาดปีนังเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริษัท พร้อมทั้งเชิญชวนให้พนักงานร่วมบริจาคหน้ากากและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือช่วยคนตาบอดทั่วประเทศ มอบผ่าน มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และมอบให้แก่พระสงฆ์อาพาธ ณ มูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์ อีกด้วย
ขณะเดียวกันฝ่ายกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคม บมจ.ล็อกซเล่ย์ และ บจ.รักษาความปลอดภัย เอเอสเอ็ม แมเนจเมนท์ (ASM) ได้มอบกรมธรรม์ประกันภัยไวรัสโควิด-19 ให้กับทัพนักกีฬาคนพิการทุกคนในสังกัดโครงการ "ล็อกซเล่ย์-เอเอสเอ็ม สปอร์ต ฮีโร่" จำนวนกว่า 70 กรมธรรม์ ล่าสุดฝ่ายกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคมได้จัดตั้ง “ตู้ปันสุข” ณ บริเวณหน้าอาคารล็อกซเล่ย์ คลองเตย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ล็อกซเล่ย์ แบ่งอิ่ม ปันสุข" เพื่อแบ่งปันอาหารและสิ่งของจำเป็น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีจากทั้งผู้บริหารใจดี พนักงานบริษัท ทีมนักกีฬาคนพิการในสังกัดโครงการ “ล็อกซเล่ย์-เอเอสเอ็ม สปอร์ต ฮีโร่” สโมสรไลออนส์ ดุสิต กรุงเทพฯ และประชาชนทั่วไป นำอาหารรวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมาร่วมเติมเต็มตู้ปันสุขอย่างต่อเนื่อง “ล็อกซเล่ย์ ขอขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่ร่วมแบ่งปันความสุขกับทุกๆ กิจกรรมและโครงการที่เป็นสาธารณประโยชน์ของล็อกซเล่ย์มาโดยตลอด เราเชื่อว่าการให้และส่งต่อความรู้สึกดีผ่านกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ให้คนในสังคมไทยอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนและมีความสุข” จรัสพงศ์ กล่าว.