“ป่าชุมชนบ้านปี้ จังหวัดพะเยา" คว้าสุดยอดป่าชุมชนของประเทศ ถ้วยรางวัลพระราชทาน โครงการ คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2562
กรมป่าไม้ ร่วมกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการประกวดป่าชุมชน ระดับประเทศ ประจำปี 2562 ในโครงการ คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน โดยป่าชุมชนบ้านปี้ จังหวัดพะเยา คว้ารางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ ถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และป่าชุมชนบ้านแม่ขมิง จังหวัดแพร่ ได้รับรางวัลชนะเลิศป่าชุมชนดีเด่น ด้าน “ป่าชุมชน: สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” การนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล
กรมป่าไม้ ร่วมกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการประกวดป่าชุมชน ระดับประเทศ ประจำปี 2562 ในโครงการ คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน โดยป่าชุมชนบ้านปี้ จังหวัดพะเยา คว้ารางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ ถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และป่าชุมชนบ้านแม่ขมิง จังหวัดแพร่ ได้รับรางวัลชนะเลิศป่าชุมชนดีเด่น ด้าน “ป่าชุมชน: สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” การนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล
การประกวดป่าชุมชนระดับประเทศ เป็นกิจกรรมในโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551 เป็นประจำทุกปี ภายใต้ความร่วมมือของบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และกรมป่าไม้ และนับเป็นโครงการต้นแบบความร่วมมือภาครัฐและเอกชน ที่มุ่งส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกด้วยแนวคิดการปลูกป่าในใจคน และขับเคลื่อนงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในรูปแบบของป่าชุมชน โดยประชาชนในชุมชนเป็นผู้ดูแลรักษาและบริหารจัดการป่าไม้ในท้องถิ่นตนเองด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม บ้าน-วัด-โรงเรียน และใช้ประโยชน์จากป่าด้วยวิถีแบบพอเพียงเพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ของชุมชน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้เป็นหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบการปกป้องดูแลรักษาป่าไม้ของประเทศ โดยรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ถึง 128 ล้านไร่ คิดเป็น 40% ของทั้งประเทศ ป่าชุมชนเป็นแนวทางที่ช่วยผลักดันให้ภารกิจการเพิ่มพื้นที่ป่ามีความก้าวหน้าเป็นลำดับ และยังเป็นเกราะป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างดียิ่ง นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนยังช่วยให้การดำเนินงานของกรมป่าไม้ขยายผลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตัวอย่างที่เห็นเป็นประจักษ์ คือ โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ที่กรมป่าไม้ ได้ร่วมกับบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินงาน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นับว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เห็นได้จากจำนวนชุมชนที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับชุมชนที่ขออนุมัติจัดทำโครงการป่าชุมชนจากกรมป่าไม้เพิ่มสูงขึ้นทั้งทางด้านจำนวนชุมชนและขนาดพื้นที่ป่าชุมชน ช่วยทำให้แนวคิดป่าชุมชนเผยแพร่กว้างขวาง ชุมชนตระหนักถึงความสำคัญ และมองเห็นประโยชน์จากการดูแลรักษาป่า เป็นแหล่งน้ำ แหล่งอาหารของชุมชนมากยิ่งขึ้น
“ปัจจุบัน จำนวนป่าชุมชนที่ขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้เพิ่มขึ้นเป็น 15,535 ป่าชุมชน คิดเป็นพื้นที่ป่ารวม 7,356,618 ล้านไร่ ทั้งนี้ กรมป่าไม้ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนป่าชุมชนให้ถึง 10 ล้านไร่ ภายใน 5 ปี ซึ่งเรามั่นใจว่าพื้นที่ ป่าชุมชนจำนวนนี้จะคงอยู่ยั่งยืนด้วยพลังของชุมชนที่มีใจรักษ์ป่าและส่งต่อเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่นี้จากรุ่นสู่รุ่นอย่างแน่นอน ผมขอแสดงความยินดีกับป่าชุมชน 147 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับรางวัลโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ปี 2562 ซึ่งจะเป็นแบบอย่างของการเรียนรู้การจัดการป่าชุมชนแบบป่ายั่งยืน ชุมชนได้ประโยชน์ และจุดประกายความคิดให้กับชุมชนอื่นๆ เพื่อขยายเครือข่ายป่าชุมชนให้กว้างขวางและแข็งแกร่งต่อไป”
ด้านนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การสนับสนุนและส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ และโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน เป็นกลไกที่ขับเคลื่อนเจตนารมณ์ดังกล่าวให้สัมฤทธิผลเป็นรูปธรรม อันเป็นผลจากการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องครอบคลุมป่าชุมชนในทุกภูมิภาคของประเทศ นับตั้งแต่ ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้สนับสนุนป่าชุมชนผ่านกิจกรรมประกวดป่าชุมชนในโครงการดังกล่าวรวมจำนวน 1,683 แห่ง คิดเป็นพื้นที่ป่า รวม 1,512,847.99 ไร่ นอกจากนี้ยังสามารถขยายผลแนวคิด “ป่าชุมชน” การอนุรักษ์และบริหารจัดการป่าแบบยั่งยืน และเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งของชุมชนในการดูแลรักษาป่าผ่านกิจกรรมค่ายเยาวชน และการสัมมนาเครือข่ายผู้นำชุมชนด้วย “
บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ป่าชุมชนเป็นความหวังและพลังสำคัญที่จะช่วยให้ป่าของประเทศเพิ่มขึ้นและได้รับการปกป้องรักษาให้คงอยู่และมีความอุดมสมบูรณ์ที่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศพึ่งพิงในการดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงเป็นแหล่งน้ำและอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนจนทำให้สภาพอากาศแปรปรวน เกิดภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี บริษัทฯ พร้อมที่จะเดินหน้าสนับสนุนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ และขอแสดงความชื่นชมกับความสำเร็จของป่าชุมชนที่ได้รับรางวัล และขอขอบคุณป่าชุมชนทั้ง 1,332 แห่งที่เข้าร่วมในโครงการปีนี้
บริษัทฯ หวังว่า โครงการนี้จะช่วยฉายภาพให้ชุมชนอื่นๆ และสังคมได้เห็นถึงความตั้งใจเสียสละของท่านในการดูแลรักษาผืนป่า และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความตระหนักรักษ์ป่าที่ขยายวงกว้างในสังคมต่อไป” ผลการประกวดป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ ประจำปี 2562 รางวัลป่าชุมชนระดับประเทศ
• ป่าชุมชนชนะเลิศ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท คือ ป่าชุมชนบ้านปี้ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ที่มีกระบวนการบริหารจัดการป่าอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชนอย่างโดดเด่น ตามหลัก บ้าน วัด โรงเรียน (บ-ว-ร) เมื่อดูแลป่าจนอุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่า จึงเกิด “กองทุนสวัสดิการผึ้ง” ที่นำรายได้มาสู่ชุมชนประมาณ 125,000-250,000 บาท จัดสรรเป็นทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวันให้แก่เยาวชน และทุนสนับสนุนการสอนให้แก่ครู ด้านเยาวชนถ่ายทอดความสำคัญของป่าผ่านการทำหนังสั้นเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้อีกทอดหนึ่ง อีกทั้งยังนำไปทำนุบำรุงพุทธศาสนาและเป็นทุนการศึกษาสำหรับพระภิกษุสงฆ์ นอกจากนี้ยังนำมาสนับสนุนพัฒนาป่าชุมชนด้านต่าง ๆ ด้วยตระหนักดีว่าการบริหารจัดการโดยเน้นหลักความยั่งยืน ใช้สอยแต่พอเหมาะ อนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง จะนำมาซึ่งความมั่นคงของคนในป่าชุมชนและความยั่งยืนของป่าไม้
• รางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศ จำนวน 3 รางวัล จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลแห่งละ 100,000 บาท - ป่าชุมชนบ้านดอนโจร หมู่ที่ 4 ต.ลำไทรโยง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ - ป่าชุมชนบ้านเนินพระ (บ้านศาลเจ้า) หมู่ที่ 2 อ.เมือง จ.ระยอง - ป่าชุมชนบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 หมู่ที่ 13 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส รางวัลดีเด่นเฉพาะด้าน “ป่าชุมชน : สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา”
• ป่าชุมชนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ ป่าชุมชนบ้านแม่ขมิง หมู่ที่ 2 ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ ซึ่งจะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท
• รางวัลรองชนะเลิศ จำนวน 3 รางวัล จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลแห่งละ 25,000 บาท ได้แก่ - ป่าชุมชนบ้านบุ่ง หมู่ที่ 6 ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย - ป่าชุมชนบ้านหนองวัวดำ หมู่ที่ 11 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี - ป่าชุมชนบ้านต้นตาล หมู่ที่ 2 ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รางวัลป่าชุมชนระดับภาค
• จำนวน 4 รางวัล ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแห่งละ 30,000 บาท รางวัลป่าชุมชนระดับจังหวัด
• จำนวน 68 รางวัล ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแห่งละ 25,000 บาท รางวัลชมเชย
• จำนวน 67 รางวัล ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแห่งละ 10,000 บาท