เอส ไอ จี ร่วมใจปลูกป่าโครงการฟื้นป่าต้นน้ำ ตามรอยพ่อหลวง จ.เชียงใหม่
21 กค 62 พนักงานผู้พิทักษ์ป่า บริษัท เอส ไอ จี คอมบิบล็อค จำกัด ร่วมใจปลูกป่าโครงการ “ฟื้นป่าต้นน้ำ ตามรอยพ่อหลวง” ระยะที่ 2 โดยร่วมมือกับ 3 พันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และจิตอาสาชาวหมู่บ้านหนองหอย จ. เชียงใหม่
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2562 พนักงานผู้พิทักษ์ป่า บริษัท เอส ไอ จี คอมบิบล็อค จำกัด ได้เดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เชียงใหม่ระยะทางกว่า 700 กิโลเมตรไปร่วมในโครงการ “ฟื้นป่าต้นน้ำ ตามรอยพ่อหลวง” ระยะที่ 2 โดยร่วมมือกับ 3 พันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และจิตอาสาชาวหมู่บ้านหนองหอย จ. เชียงใหม่โครงการนี้มีวัตถุประสงค์จัดขึ้นเพื่อให้พนักงานเล็งเห็นถึงความสำคัญของการปลูกป่า เช่น ช่วยลดภาวะโลกร้อน และนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชุมชนและชีวิตประจำวัน
โครงการนี้เป็นหนึ่งในการรณรงค์การปลูกป่าของบริษัท เอส ไอ จี ทั่วโลก กิจกรรมการหยอดเมล็ดและปลูกป่านี้จัดขึ้น ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ดอยม่อนแจ่มและบ้านแม่ขิ อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ทีมงานผู้พิทักษ์ป่าของเอส ไอ จี และหน่วยงานพันธมิตร ร่วมกันหยอดเมล็ดพันธุ์กว่า 1,000 เมล็ดใน 21 สายพันธุ์ ในพื้นที่ปลูกครอบคลุมบริเวณ แม่ริมกว่า 6,400 ตรม. และวิธีการหยอดเมล็ดนี้ทำให้ต้นกล้าเติบโตได้ดีในพื้นที่เข้าถึงยาก
โดยหน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่ามาให้ความรู้และสาธิตวิธีการปลูกอีกด้วย ซึ่งทางหน่วยวิจัยฯ ได้ทำการประเมินผลว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่สามารถปลูกและเติบโตได้ในพื้นที่ ทีมงานไม่เพียงแต่การตระหนักถึงเรื่องการปลูกป่าเท่านั้น แต่ยังได้ทราบถึงความสำคัญของแนวฟื้นฟูป่านี้นั้นมีผลต่อระบบนิเวศและแหล่งน้ำ โครงการหลวงหนองหอยยังเป็นแหล่งต้นน้ำลุ่มน้ำในแม่น้ำปิง อันเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศไทย ได้แก่ ปิง วัง ยม น่าน ที่รวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยามายังภาคกลางและไหลออกสู่อ่าวไทย ซึ่งจะเป็นแนวกั้นน้ำและลดการเกิดน้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯ อีกด้วย
“เอส ไอ จี หนึ่งในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เราจึงรับผิดชอบต่อป่าไม้ซึ่งถือเป็นและต้นน้ำและชีวิต โครงการฯ ที่จัดขึ้นนี้ เราต้องการให้เกิดความสำเร็จในฟื้นฟูพื้นที่ป่าอันเป็นผลมาจากการตัดไม้ทำลายป่าและมลภาวะต่างๆ การปลูกป่าที่ประสบความสำเร็จนำมาซึ่งข้อดีหลายประการไม่เพียงแต่เพิ่มพื้นที่และความหนาแน่นของป่าให้มากขึ้น แต่ยังรวมไปถึงช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำและลดความเปลี่ยนแปลงอากาศจากภาวะโลกร้อน และการสร้างงานและเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย” คุณวัชรพงศ์ อึงศรีสวัสดิ์ ผู้จัดการเอส ไอ จี ประจำประเทศไทยกล่าว สำหรับโครงการระยะที่ 3 ครั้งถัดไปเราจะทำการฟื้นฟูป่าเพิ่มเติม ในไตรมาสแรกของปี 2563