http://www.csrcom.com/
True ปลูกปัญญา
World Content

คาร์บอนเครดิต คืออะไร

Carbon Credit

             "คาร์บอนเครดิต" หมายถึง ก๊าซที่เป็นตัวทำให้ปฏิกิริยาเรือนกระจกต่างๆ ที่แต่ละโรงงานสามารถลดได้ จะถูกตีราคาเป็นเงิน ก่อนจะถูกขายเป็นเครดิตไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว

               ตามข้อตกลงในพิธีสารเกียวโต (Kyoto Protocal) ที่กำหนดให้ประเทศพัฒนาแล้ว (Annex1) ต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกริยาเรือนกระจก (Green House Effect) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ "โลกร้อน" ในหลายแนวทาง หนึ่งในนั้นคือ "การซื้อขายมลพิษ" หรือ คาร์บอนเครดิต กับประเทศที่กำลังพัฒนา (Non-Annex1)เพราะประเทศที่พัฒนาแล้ว กำลังอยู่ในภาวะ"จนแต้ม" จากการที่ไม่สามารถลดก๊าซที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกลงได้

                  เนื่องจากพิธีสารดังกล่าว ที่มีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อ 16 ก.พ.2549 โดยกำหนดให้ประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่ลงนามไว้ อาทิ สหภาพยุโรป แคนาดา และญี่ปุ่น ต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ต่ำกว่าระดับก๊าซที่เป็นมลพิษในปี 2533 โดยเฉลี่ย 5.2% ระหว่างปี 2551-2555 หากผู้ที่ร่วมโครงการไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อกำหนดจะต้องมี "บทปรับ"   

                   โดยในสหภาพยุโรป มีค่าปรับถึงตันละ40 ยูโร ตามแผนการลดมลพิษในระยะที่ 1 (2548-2550) และเพิ่มค่าปรับเป็นตันละ100 ยูโร ตามแผนในระยะที่ 2 (2551-2555) ซึ่งสูงกว่าราคารับซื้อหลายเท่าตัวปฏิบัติการ "ควานหา" (Matching) ผู้ซื้อพบผู้ขายจึงเกิดขึ้น จากดีมานด์ในประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะสหภาพยุโรป เป็นเหตุ !
                   โรงงานในไทยที่ประสงค์จะขอซื้อขายคาร์บอนเครดิตขั้นตอนแรกจะต้องจ้างบริษัท ที่ปรึกษา เพื่อไปจดทะเบียนกับหน่วยงานราชการ รับรองว่าโรงงานของคุณเข้าหลักการที่สามารถทำได้เสนอต่อ  สำนักงานนโยบายและ แผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และคณะรัฐมนตรี  รับรอง
                  จากนั้นจะต้องส่งเรื่องไปให้สหประชาชาติรับรองอีกชั้นหนึ่ง ก่อนที่จะให้บุคคลที่สามเข้าไปตรวจ เมื่อตรวจแล้ว ก็ต้องส่งเอกสารการตรวจสอบกลับไปให้สหประชาชาติพิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่จะออกใบรับรองที่มีอายุ 1 ปี "

                  ต่อไป เรื่อง คาร์บอนเครดิตนี้จะเป็นประเด็นร้อน ที่สร้างรายได้ให้กับหลายบริษัทในไทย แม้แต่ยักษ์คอร์ปอเรทในไทย อย่าง เครือซิเมนต์ไทย ยังขยับที่จะขายคาร์บอนเครดิต โดยเริ่มดำเนินการในส่วนของโรงปูนซีเมนต์ ขณะนี้กำลังจะเริ่มขั้นตอนการออกแบบโครงการ (Project Design) ซึ่งอยู่ในขั้นเริ่มต้นมากๆ

                  ธุรกิจที่มีศักยภาพในการดำเนินการ จะเป็นธุรกิจที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Energy) เช่น โรงไฟฟ้าชีวมวล เขื่อน ธุรกิจบำบัดน้ำเสียด้วยชีวมวล โรงปูนซีเมนต์ เป็นต้น โดยโรงงานใหม่จะมีภาษีในการดำเนินการมากกว่าโรงงานเก่า แต่ไม่ได้หมายความว่าโรงงานเก่าจะทำไม่ได้ หากต้องการทำจะต้องพิสูจน์ให้ได้ ว่ามีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาลดมลพิษ ซึ่งอาจจะต้องลงทุนมากกว่า แต่ถ้าเป็นโรงงานใหม่ ก็สามารถคุยกับที่ปรึกษาฯได้เลยว่า เข้าข่ายที่จะทำได้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการไฟแนนซ์โครงการ จากรีเทริ์นที่จะกลับมาจากการขายคาร์บอนเครดิต ซึ่งอาจจะคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนเรื่องเทคโนโลยีที่จะมาลดปฏิกิริยา เรือนกระจก
                  พิธีสารเกียวโต ยังไม่ทำให้เกิดการลดการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ลงอย่างมากมาย เพราะราคาซื้อขายยังไม่สูงพอที่จะสร้างแรงจูงใจให้เกิดการลดการใช้พลังงาน หรือปล่อยคาร์บอนฯ สาเหตุเนื่องจาก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ปล่อยมลพิษสูงสุดในโลก แต่กลับไม่ยอมลงนามในพิธีสารเกียวโต เพราะเกรงว่าธุรกิจจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน
aphondaworathan