East Water ช่วยสังคม ปั้นผู้นำเยาวชนรักษ์น้ำ
East Water ช่วยสังคม ปั้นผู้นำเยาวชนรักษ์น้ำ
โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์
ประพันธ์ อัศวอารี
ความสำคัญของน้ำนั้นเป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วในสังคมที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่ทุกๆ ปีประเทศไทยเราก็ยังมีท้องที่เดือดร้อนจากปัญหาน้ำ ที่ยังแก้กันไป
อย่างเช่นช่วงนี้ที่มีกว่า 20 จังหวัดที่ประสบภัย “น้ำท่วม” แต่ก็ยังมีบางจังหวัดที่เผชิญกับภาวะ “น้ำแล้ง” ซึ่งรัฐบาลและเอกชนที่แข็งแรงต้องช่วยเหลือกัน
เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้มีโอกาสต้อนรับ ประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือที่สังคมและนักลงทุนรู้จักดีในนาม “East Water” ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญและมีส่วนสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหาที่เกี่ยวกับน้ำกินน้ำใช้
นอกจากได้รับรู้แนวนโยบายด้านการบริหารธุรกิจที่มีธรรมาภิบาลและคำนึงถึงการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมจากการทำธุรกิจแล้ว บทบาทด้านกิจกรรมช่วยเหลือสังคมก็มีหลากหลายและต่อเนื่อง เช่น
1.การปลูกจิตสำนึกให้แก่เยาวชนในชุมชนร่วมกันอนุรักษ์น้ำ
กิจกรรมค่ายเยาวชนอนุรักษ์น้ำ ซึ่งมุ่งสอนให้เยาวชนมีภาวะผู้นำ และตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ ว่าเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตสัตว์และพืช และมีความจำเป็นทั้งในภาคเกษตรกรรมอุตสาหกรรม และการอุปโภคบริโภค จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ
การปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนเช่นนี้ เพื่อจะได้นำความรู้เรื่องทรัพยากรน้ำไปถ่ายทอดให้คนในครอบครัว หรือชุมชนรอบข้าง จะได้ช่วยกันอนุรักษ์น้ำ ให้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างยั่งยืน
ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา จึงมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการนี้โดยใช้เวลา 3 วัน 2 คืน รวมแล้วกว่า 1,200คนจาก 320 โรงเรียนเพื่อเรียนรู้การเป็นผู้นำที่ดีและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่อง “น้ำ”
จนถึงปัจจุบัน มีการสนับสนุนทุนแก่โรงเรียนปีละ 100 โรงเรียน เพื่อช่วยการพัฒนางานด้านน้ำและสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียน และปี 2553 ได้ปรับปรุงวัตถุประสงค์การใช้ทุนเป็น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การบำบัดน้ำเสีย 2.การประหยัดน้ำ และ3.ห้องสมุดน้ำโรงเรียน โดยมีพนักงานของบริษัทร่วมกับหน่วยงานทรัพยากรธรรมชาติประจำจังหวัดเป็นผู้ให้คำปรึกษาและออกแบบ
2.โครงการฟื้นฟูสภาพแหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม
ผลจากอ่างเก็บน้ำและคลองส่งน้ำธรรมชาติตื้นเขิน และการบุกรุกถางป่าของชาวบ้าน ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำในหน้าแล้งเป็นประจำทุกปี กิจกรรมพื้นฟูสภาพแหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อมที่ทำมาต่อเนื่องของอ่างเก็บน้ำ 3 จังหวัดในพื้นที่ปฏิบัติการ ตลอดจนคลองต่างๆ และแม่น้ำแม่บางปะกง ได้ช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของรัฐในการดูแลรักษาแหล่งต้นน้ำต่างๆ ให้กลับมาสมบูรณ์ขึ้น
นอกจากนี้ ในโอกาสวันสำคัญต่างๆ ทุกๆ ปีได้ร่วมกับหน่วยราชการในท้องถิ่นขุดลอกคลอง และปล่อยพันธ์ปลา ปล่อยพันธ์กุ้ง ลงสู่อ่างเก็บน้ำ รวมทั้งฟื้นฟูและป้องกันการกัดเซาะ โดยการปลูกป่าชายเลน และปลูกต้นไม้
3.โครงการสนับสนุนการทำฝนหลวง
ในปี 2553 East Water ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณ แก่กองงานส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง เป็นปีแรก และในปีนี้ บริษัทได้ทำบันทึกข้อตกลงต่อเนื่องระยะเวลา 3 ปี (2554-2556) เพื่อสนับสนุนให้กองงานส่วนพระองค์ ได้นำไปใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ 1. การซื้อสารเคมีในการปฏิบัติการฝนหลวง2. ค่าเชื้อเพลิงในการบินทำฝนหลวง3. การก่อสร้างอันเกี่ยวเนื่องกับภารกิจฝนหลวงและการบินเกษตร 4. การดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับภารกิจฝนหลวงและการบินเกษตร โดยให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง
4.โครงการระบบบำบัดน้ำเสียโรงอาหารในโรงเรียน
โครงการนี้แสดงถึงการเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อมของชุมชนและบริษัท ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ โดยร่วมมือกับชมรมรักษ์สิ่งแวดล้อม จ.ฉะเชิงเทรา และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านระบบบำบัดน้ำเสียครัวเรือน รวมทั้งเป็นหน่วยงานที่ริเริ่มโครงการนำร่องสร้างและติดตั้งถังดักไขมันในโรงอาหารโรงเรียนของ จ.ฉะเชิงเทรา
5.โครงการพบปะเครือข่ายชุมชน "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
มีการประสานงานยังหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องถิ่น เพื่อประชาสัมพันธ์วัตถุประสงค์การดำเนินงานของโครงการให้กับชุมชนต่างๆได้รับทราบ จัดเตรียมบุคลากรที่มีความรู้ในการถ่ายทอดและวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการฝึกอบรมการทำน้ำยาเอนกประสงค์ (น้ำยาล้างจาน / น้ำยาซักผ้า / น้ำยาปรับผ้านุ่ม / สบู่เหลวล้างมือ) ใช้เวลาในการจัดฝึกอบรม 2 ชั่วโมง เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ จำนวน 50 - 100 คน / กลุ่ม
จาก ปี 2553 และปี 2554 ที่จัดอบรมอาชีพให้กับชุมชนในพื้นที่ จ.ระยอง จ.ชลบุรี และจ. ฉะเชิงเทรา ทั้งสิ้น 80 ชุมชน มีผู้เข้าอบรมกว่า 6,000 คน ชาวบ้านสามารถลดรายจ่ายโดยการทำน้ำยาเอนกประสงค์ไว้ใช้เอง และยังเป็นอาชีพเสริม
ข้อคิด...
พิจารณาจากเป้าหมายในวิสัยทัศน์ของบริบทนี้ที่กำหนดว่า “มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการจัดการน้ำอย่างมีคุณค่าเพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืน”
ส่วนพันธกิจก็มีคุณค่า :
-รักษาอัตราการเติบโตทางธุรกิจอย่างโปร่งใส และบูรณาการ
-เป็นศูนย์ความรู้ทางเทคโนโลยีด้านน้ำ ในระดับภูมิภาค
-จัดหาแหล่งน้ำและบริหารจัดการโครงข่ายท่อส่งน้ำดิบเพื่อการอุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรมอย่างพอเพียง
-พัฒนาและจัดการระบบประปา ระบบการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) และระบบการบำบัดน้ำเสียด้วยเทคโนโลยี และต้นทุนที่เหมาะสม
-ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมชุมชนท้องถิ่นและห่วงใยสิ่งแวดล้อม
-สร้างความภาคภูมิใจแก่พนักงานในฐานะผู้นำด้านการจัดการน้ำ
นับว่ามีแนวทางที่ดีในการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะสนับสนุนท้องถิ่นด้วยการเสียภาษีที่ จ.ระยอง ซึ่งเป็น 70% ของรายได้บริษัท
คุณประพันธ์บอกว่า เดิมบริษัทเคยเสียภาษีที่กรุงเทพฯ ก็จะช่วยให้ท้องถิ่นมีรายได้นำไปพัฒนาได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นธุรกิจที่มีจิตอาสาทำกิจกรรมส่งเสริมแหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม ช่วยสังคมชุมชน ส่งเสริมการศึกษาและเยาวชน รวมทั้งสนับสนุนการกีฬา ศาสนา และวัฒนธรรม
นับเป็นตัวอย่างของการมี CSR ทั้งในกระบวนการ (CSR-in process) และกิจกรรมช่วยสังคม (CSR-after process)
ที่มา: http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9540000111036