ถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัย "วันทัช" ร่วมลดโลกร้อน ติดฉลากลดใช้คาร์บอน
ฉลากคาร์บอนตรงบริเวณมุมกล่องผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยตราวันทัช (ภาพจาก อบก.)
"วันทัช" ถุงยางอนามัยจาก บริษัท ไทยนิปปอน รับเบอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ได้รับการอนุมัติ ให้ติดฉลากคาร์บอนเป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย และอาจเป็นถุงยางอนามัยรายแรกในโลก ที่ได้ติดฉลากคาร์บอน
ซึ่งฉลากคาร์บอนเป็นสัญลักษณ์หนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการร่วมลดก๊าซเรือนกระจก อันเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนโดยสินค้าที่จะได้รับฉลากคาร์บอนจาก "องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก" (อบก.) จะต้องเป็นสินค้าที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตอย่างน้อย "ร้อยละ 10" ขึ้นไป โดยพิจารณาจากการลดปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้า การลดปริมาณเชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวน การผลิต และการลดการใช้วัตถุดิบหรือการเกิดของเสียที่มีศักยภาพก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งบางกรณีที่มีการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานเป็นพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด
นายจักรพงษ์ ชูพยัคฆ์ หัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนา ของบริษัทได้ให้ข้อมูลว่า " บริษัทผลิตถุงยางอนามัยส่งออก คิดเป็นประมาณ 90% ของที่ผลิตได้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรปเป็นหลัก ซึ่งในกลุ่มประเทศเหล่านี้ให้ความสำคัญในเรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก และเริ่มมีสินค้าติดฉลากคาร์บอนกันแล้ว หากสินค้าของเราได้รับการติดฉลากคาร์บอนด้วย ก็น่าจะช่วยเพิ่มจุดขายให้เราได้ จึงได้เข้าร่วมโครงการฉลากคาร์บอน
โดยในกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ต้องใช้พลังงานมาก โดยเฉพาะในขั้นตอนการอบถุงยางอนามัยที่ต้องใช้ความร้อนสูงมาก เดิมทีเราใช้ความร้อนจากไฟฟ้า แต่ได้มีการปรับปรุงกระบวนการอบถุงยางอนามัยมาตั้งแต่ปี 2546 โดยเปลี่ยนมาใช้ก๊าซธรรมชาติร่วมด้วย และนำความร้อนที่เหลือทิ้งจากการอบกลับมาใช้ใหม่ด้วย ทำให้ปัจจุบันเราสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ประมาณ 25.4% เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตในปี 2545 นายจักรพงษ์ ให้รายละเอียด
ตั้งแต่ปี 2546 บริษัทก็ได้เข้าร่วมโครงการทางด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการการจัดการพลังงานแบบสมบูรณ์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานสำหรับอุตสาหกรรม (Total Energy Management) เป็นต้น
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยวันทัชที่จะติดฉลากคาร์บอน ได้แก่ รุ่นแฮปปี้, รุ่นแมกซ์ดอท, รุ่นสวีททีน, รุ่นมิกซ์ 3, รุ่นสตรอเบอรี, รุ่นโซลูชัน และ รุ่น 50.5 ซึ่งนับเป็นถุงยางอนามัยรายแรกในประเทศไทยที่ติดฉลากคาร์บอน
ส่วนโครงการฉลากคาร์บอนในประเทศไทยนั้น เป็นความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. และ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย โดยฉลากคาร์บอนจะแสดงให้ผู้บริโภคทราบว่าในกระบวนการผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 10% ขึ้นไปเมื่อเทียบกับปี 2545
ที่มา: http://www.manager.co.th/science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000040027