ข่าว CSR
บริติชเคาน์ซิล และไนส์คอร์ป จัดดูงาน "กิจการเพื่อสังคม" ที่ประเทศอังกฤษ
บริติชเคาน์ซิล และไนส์คอร์ป จัดดูงาน "กิจการเพื่อสังคม" ที่ประเทศอังกฤษ
"ภาคธุรกิจชั้นนาไทยพร้อมด้วยกระทรวงพาณิชย์ร่วมศึกษานโยบายภาคส่วนที่สาม (Third Sector) ในประเทศอังกฤษหวังพัฒนาสู่แนวทางเศรษฐกิจยั่งยืน (Sustainable Economy)"
บริติชเคาน์ซิล (ประเทศไทย) และกิจการเพื่อสังคมไนส์คอร์ป จัดงานแถลงข่าวเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์คณะภาคธุรกิจชั้นนาไทยพร้อมด้วยกระทรวงพาณิชย์ ณ โรงแรมแลนมารค์ วันที่ 19 มิถุนายน 2555 โดยรัฐบาลอังกฤษได้สนับสนุนรัฐบาลและภาคธุรกิจไทยในการเชื่อมโยงความร่วมมือในการส่งเสริมการพัฒนา “ภาคส่วนที่สาม” หรือ กิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย เพื่อศึกษาแนวทางกิจการเพื่อสังคมในประเทศอังกฤษระหว่างวันที่ 25-29 มิถุนายนนี้ อันนับเป็นวิวัฒนาการใหม่หรือแนวทางเศรษฐกิจยั่งยืน(Sustainable Economy) ที่ผสานคุณค่าร่วมของภาคส่วนธุรกิจและสังคมอย่างสมดุลต่อยอดสู่การยกระดับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืน
นอกจากการศึกษาดูงานโครงสร้างการสนับสนุนจากภาครัฐ อีกส่วนที่สาคัญคือโครงสร้างทางด้านการเงินในการขับเคลื่อนกิจการเพื่อสังคม รวมทั้งศูนย์บ่มเพาะสร้างศักยภาพที่มีความสาคัญในการสร้างความเข้มแข็ง ตลอดจนการได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับต้นแบบกิจการเพื่อสังคมชั้นนาในประเทศอังกฤษ การศึกษาดูงานในครั้งนี้จึงนับเป็นการจุดประกายการขับเคลื่อนพัฒนากิจการเพื่อสังคมของภาคธุรกิจไทย และเป็นการเปิดประตูเชื่อมโยงโอกาสในการดาเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายกิจการเพื่อสังคมในประเทศอังกฤษ ตลอดจนองค์กรเครือข่ายทั่วโลก เพื่อเสริมสร้างบทบาทของกิจการเพื่อสังคมไทยให้โดดเด่นในเวทีโลกอีกด้วย”
คณะผู้เดินทางฯ ได้รับการต้อนรับโดยท่านรัฐมนตรี Nick Hurd, Minister of Civil Society ณ ห้องประชุมทาเนียบรัฐบาล (Cabinet Office) ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนหารือแนวทางการพัฒนากิจการเพื่อสังคมนาโดยท่านที่ปรึกษาการพาณิชย์ คุณวิบูลย์รัตน์ ร่วมลักษณ์ พร้อมกับคณะผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนาในประเทศไทยในภาคส่วนอุตสาหกรรมอาหาร พลังงาน ธุรกิจการค้า การเงิน และภาคการศึกษา ได้แก่ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จากัด (มหาชน) บริษัทปตท จากัด (มหาชน) บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จากัด (มหาชน) บริษัทบ้านปู จากัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพฯ จากัด (มหาชน) บริษัทกรุงไทยแอ๊กซ่า ประกันชีวิต จากัด บริษัทเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จากัด และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
โดยท่านได้วางนโยบายในการดูแลภาคส่วนที่สาม (The Third Sector) ภายใต้นโยบาย Big Society “นโยบายสังคมเป็นใหญ่” ในปัจจุบันที่มุ่งเน้นการสร้างสังคมใหม่ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเป็นคนสาคัญในการกาหนดทิศทางของสังคม ครอบคลุมถึงแนวนโยบายงานบริการสาธารณะ (Public Service) องค์กรการกุศล(Charities and Sector Support) กิจการเพื่อสังคมและการลงทุนทางสังคม (Social Investment and Social Enterprise) และงานกิจกรรมสังคม (Social Action) โดยการพบปะภาคธุรกิจไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้จึงนับว่าเป็นการเชื่อมโยงโอกาสในการดาเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายกิจการเพื่อสังคมในประเทศอังกฤษและเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ประเทศไทยจะได้ร่วมดาเนินการจัดงาน World Social Enterprise Forum ครั้งถัดไปในปี 2014
ท่านที่ปรึกษาการพาณิชย์ คุณวิบูลย์รัตน์ ร่วมลักษณ์ หารือกับผู้บริหาร British Council, Dr.Anne Wozencraft Head of Education&Society และ Christine Wilson Head of Youth&Society ถึงภาพรวมการพัฒนากิจการเพื่อสังคมในประเทศอังกฤษ
ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แลกเปลี่ยนมุมมองกับ Peter Holbrook, CEO and Ceri Jones, Head of Policy, Social Enterprise UK เกี่ยวกับการขับเคลื่อนในภาคส่วนของการศึกษาตลอดจนการเข้าร่วมการจัดงาน World Social Enterprise ในปี 2014
ปัจจุบันมีกิจการเพื่อสังคมทั้งหมด 68,000 แห่ง คิดเป็น 5% ในภาค และยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง Social Enterprise UK ซึ่งแต่เดิมคือ Social Enterprise Coalition มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์ให้คาปรึกษา ศูนย์บ่มเพาะเพื่อพัฒนาศักยภาพของกิจการเพื่อสังคม ซึ่งนับเป็นศูนย์สนับสนุนกิจการเพื่อสังคมแห่งแรกในประเทศอังกฤษ เป็น National Body และเป็นตัวกลางเพื่อให้ความรู้ เครือข่ายข้อมูล ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม และเสนอความคิดเห็นแก่ภาครัฐเพื่อสนับสนุนโครงสร้างกิจการเพื่อสังคม
นอกจากนั้น คณะผู้บริหารได้แลกเปลี่ยนมุมมองในภาคการเงินและแนวโน้มของการลงทุนเพื่อสังคมร่วมกับสถาบันการเงิน และตัวกลางในการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคมทางการเงินในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ องค์กรผู้แทนนโยบายภาครัฐ Big Society Capital โดย Caroline Mason, COO ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลอังกฤษ ภายใต้นโยบาย Big Society ของ Office of Civil Society โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความยั่งยืนของตลาดการลงทุนทางสังคมในประเทศอังกฤษ (Social Investment) โดยมีเป้าหมายในการขยายกองทุนในการสนับสนุนจากปัจจุบันในปี 2555 จานวน 600 ล้านปอนด์ ถึง 3000 ล้านปอนด์ ภายใน 4 ปี
กิจการเพื่อสังคมด้านการเงิน CAN(Community Active Network) โดย Andrew Croft ที่สนับสนุนทั้งการเงินและสนับสนุนพื้นที่สานักงานให้กลุ่มกิจการเพื่อสังคมตลอดจนเป็นที่ปรึกษาในการเชื่อมโยงเครื่อข่ายกับภาคธุรกิจ, CEO Social Finance Ltd. โดย David Hutchison, CEO และองค์กรตัวกลางในการเชื่อมโยงแหล่งทุนสนับสนุนผุประกอบการตั้งแต่ start-up ถึง scale-up เช่น UnLtd โดย Cliff Prior, CEO และกิจการเพื่อสังคม Big Issue Invest โดย Nigel Kershaw, CEO ซึ่งเป็นหน่วยงานสนับสนุนของนิตยสาร Big Issue เพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุนให้กับผู้ประกอบการ ที่มีหลักประกันต่า เพื่อลดช่องว่างของความไม่เท่าเทียมทางการเงิน และลดการเป็นหนี้ระยะยาว ตลอดจนมีการปรึกษาและติดตามผลการดาเนินงาน
นอกจากนั้น องค์กรกลางหรือ Intermediary เป็นอีกกลุ่มองค์กรสาคัญของระบบโครงสร้างแบบ Eco-system โดยคณะฯได้แลกเปลี่ยนแนวทางการอบรมกิจการเพื่อสังคมจาก School for Social Entrepreneurs โดย Ian Baker, Development Director ซึ่งก่อตั้งมากว่า 10 ปี ปัจจุบัน ขยายไปถึง 10 สาขา และมีผู้สาเร็จการศึกษามากกว่า 850 คน และ 20% สามารถอยู่รอดในธุรกิจในระยะเวลามากกว่า 5 ปี
อีกภาคส่วนที่สามารถเป็นตัวกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพคือภาคธุรกิจ โดยคณะฯได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับ David Adair, Director of Community Affairs, PriceWaterhouseCoopers ซึ่งได้สนับสนุนให้เกิด Centre for Social Impact เพื่อเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของบรรดากิจการเพื่อสังคมตลอดจนเป็นสถานที่อบรมและร่วมกิจกรรมต่างๆ และยังร่วมสนับสนุนให้เกิดร้านอาหาร Brigade ร้านอาหารเพื่อสังคมที่ให้โอกาสคนไร้ที่อยู่อาศัยได้มีโอกาสสร้างงานสร้างอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยวิถีทางธุรกิจ
ศึกษาดูงานกิจการเพื่อสังคม BIKEWorks ต้อนรับโดย CEO, Jim Blakemore ก่อตั้งในปี 2008 โดยรูปแบบ CICs ในแบบ Company Limited by Guarantee โดยกาไรทั้ง 100% ถูกนากลับมาพัฒนาองค์กรและสังคมทั้งหมดBikeworks มีเป้าหมายในยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนด้วยสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดีจากการใช้จักรยานในชีวิตประจาวัน และสนับสนุนการสร้างงานให้แก่ผู้ด้อยโอกาส สร้างสังคมแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
อีกกิจการเพื่อสังคมในระบบขนส่งมวลชนคือ HCT group ต้อนรับโดย Dai Powell, CEO (Old Station) ก่อตั้งมากว่า 30 ปี ดาเนินงานครบวงจร ตั้งแต่ฝึกงาน และอานวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการทั้งคนปกติและคนพิการ องค์กรนากาไร 37% กลับไปพัฒนาชุนชน ปัจจุบันมีเงินหมุนเวียนเพิ่มเป็น 28.6 ล้านปอนด์ มีรถยนต์โดยสาร 370 คัน ในกว่าครึ่งของพื้นที่ชานเมือง 15 เขต และสร้างงานกว่า 700 คน
นอกจากนั้น คณะได้ศึกษาดูงานองค์กร Ebico โดย กลุ่มผู้ให้บริการน้ามันและกระแสไฟฟ้าแห่งเดียวในประเทศอังกฤษที่ดาเนินธุรกิจในรูปแบบกิจการเพื่อสังคม เน้นให้บริการไฟฟ้าให้ครัวเรือนชาวอังกฤษได้เข้าถึงพลังงานในราคายุติธรรม โดยคิดอัตราบริการเดียวกันหมด ปัจจุบันมีรายได้ 22 ล้านปอนด์ต่อปี
และอีกหนึ่งไฮไลต์คือกิจการเพื่อสังคม People’s Supermarket Kate Bull, CEO ก่อตั้งในปี 2010 บริหารองค์กรมในรูปแบบสมาชิกปัจจุบันมีสมาชิก 500คน ซึ่งจ่ายค่าสมาชิก 25ปอนด์และต้องมาทางานเป็นอาสาสมัตรในร้าน 4 ชม.ต่อสัปดาห์ เวลามาซื้อของจะได้ส่วนลด 20% การดาเนินกิจการเป็นแบบธุรกิจทั่วไป ไม่มีการได้สิทธิ์พิเศษใดๆ ไม่มีการปันผลให้ผู้ถือหุ้นหรือสมาชิก แต่กาไรที่เกิดขึ้นเอาไปพัฒนาร้านให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น โดยทางร้านเน้นนาผลผลิตของชุมชนมาขาย และยังจัดแคมเปญ People’s Kitchen เพื่อบริหารจัดการอายุของอาหาร โดยนามาจัดทาเป็นอาหารสดจาหน่ายก่อนล่วงหน้า
นับเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ไทยกับการพัฒนา “กิจการเพื่อสังคม” ที่ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยความร่วมมือของภาคเอกชน โดยการสนับสนุนของภาครัฐ โดยหลังจากการศึกษาดูงานผู้นาในคณะศึกษาดูงานได้มีมติให้ดาเนินการจัดตั้งคณะทางานเพื่อสานต่อแนวทางสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒได้ให้เกียรติรับเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะทางานครั้งแรกในวันที 13 กรกฎาคมนี้ เพื่อสรุปผลการศึกษาดูงาน ตลอดจนแลกเปลี่ยนแนวคิดในการประยุกต์ปฏิบัติ ตลอดจนแผนงานใหญ่ของประเทศในการร่วมเป็นเจ้าภาพงานสัมมนาระดับประเทศ World Social Enterprise 2014
*************************************************************************************************
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม คุณนภมณฑ์ ชลออยู่ โทร 090-018-3250 Email: info@nisecorporation.com
คุณสกุลทิพย์ กีรติพันธวงศ์ โทร 090-669-3961 Email: sakulthip@nisecorporation.com