THE REGENT’S SCHOOLS ตามล่าหาขุมทรัพย์...เพื่อน้องน้อย

                                             
                                            
     ขณะที่โลกกำลังเจริญก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีนั้น มีเด็กที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก (Autistic Disorder) หรือ ออทิสซึม (Autism)ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น มีอัตราผู้ป่วย 2-6 คนใน 1,000 คน โดยพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงในอัตรา 4 : 1   เด็กจะมีอาการความบกพร่องในด้านพัฒนาการของการสื่อสาร ความสัมพันธ์ทางสังคมและพฤติกรรมที่ผิดแผกจากเด็กทั่วไป อยู่ในโลกส่วนตัวของตนเอง นับเป็นสิ่งที่ผู้เป็นพ่อแม่ทรมานใจอย่างยิ่งและต่างพยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยประคับประคองให้ลูกน้อยมีอาการที่ดีขึ้น               
        ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ ประธานกรรมการ โรงเรียนนานาชาติ เดอะ รีเจ้นท์ กล่าวว่า “ เดอะ รีเจ้นท์ ได้ร่วมแรง 3 ประสานทั้งครู นักเรียนและผู้ปกครองจัดกิจกรรม โครงการแรลลี่ เดอะ รีเจ้นท์...ตามล่าหาขุมทรัพย์เพื่อน้องน้อย หรือ The Regent’s Treasure Hunt Rally 2011 เพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือศูนย์ให้คำปรึกษาเด็กออทิสติกที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 12 ที่โรงเรียนบ้านเขาบายศรี ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นศูนย์ที่ดูแลช่วยเหลือ ฟื้นฟูและพัฒนาการศึกษาสำหรับเด็กที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก และเดอะรี เจ้นท์ยังจะนำรายได้อีกส่วนหนึ่งเป็นค่าขนส่งนำอุปกรณ์ที่ใช้ในการสอนเด็กออทิสติกจากประเทศอังกฤษมาใช้ในศูนย์แห่งนี้อีกด้วย “            
            รุ่งอรุณของวันอาทิตย์อากาศสดใสเหมือนดั่งจิตใจของนักเรียนวัยประถมและมัธยม พร้อมคณะครูของโรงเรียนนานาชาติ เดอะ รีเจ้นท์ พัทยา ที่ต่างชักชวนเพื่อนๆและผู้ปกครองมากันแต่เช้าตรู่กว่า 100 ทีม ณ.ลานกว้างหน้าโรงเรียน บนถนนสาย 36 บางละมุง พัทยา  เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันในโครงการแรลลี่ เดอะ รีเจ้นท์...ตามล่าหาขุมทรัพย์ หรือ The Regent’s Treasure Hunt Rally 2011                  
      ณ จุดสตาร์ท คุณพอล เคร้าช์  หัวหน้าโครงการนี้ได้แจกแจงกฎกติกามารยาทของแรลลี่เพื่อสังคมครั้งนี้ว่า ระหว่างการเดินทาง รถแต่ละคันจะต้องแวะค้นหาอาร์ซี และเก็บสมบัติมูลค่าประมาณ 700 บาท แล้วนำไปบริจาคที่องค์กรในชุมชนต่างๆ 7 แห่ง บนเส้นทางที่กำหนดไว้ ส่วนจุดหมายปลายทางเส้นชัยอยู่ที่โรงแรมเซนทารา พัทยา  ได้เวลาธงโบกสะบัดของทีมงานเป็นสัญญานการเริ่มต้นของแรลลี่เพื่อสังคมครั้งนี้   เปิดทางให้ขบวนรถแรลลี่ของเหล่าวัยทีนออกจากจุดหมายพร้อมอาร์ซี                    
     เด็กหญิง อิสิปรียา ไพบูลย์ธนะสิน ชั้นเยียร์ 9 จากทีมThe Ever Increasing Bears บอกว่า” เป็นครั้งแรกในชีวิตที่หนูได้มาแข่งขันแรลลี่ เดอะ รีเจ้นท์ ตามล่าหาขุมทรัพย์ เป็นกิจกรรมวันหยุดที่ได้ประโยชน์ 3 ต่อ คือ เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัวในกิจกรรมที่สนุกสนาน ใช้สติปัญญา และร่วมมือกันในทีม และสุดท้ายเรายังได้สร้างประโยชน์ให้เกิดกับสังคมอีกด้วย ช่วงที่ไปแวะโรงเรียนเด็กพิเศษบ้านเขาบายศรี เราได้เล่นเกมทำดอกไม้จากลูกปัดให้ครบจำนวน 2 ดอก แล้วบริจาคเงินซื้อดอกไม้ที่ทีมก่อนหน้านี้ได้ทำไว้ ส่วนดอกไม้ที่เราทำไว้ก็จะมีทีมแรลลี่อื่นๆมาซื้อในรูปของเงินบริจาคเพื่อการกุศลด้วยเหมือนกันค่ะ”                                  
     เด็กชายนอร์ฟาส ฮาคิม ชั้นเยียร์ 12 จากทีมแรลลี่ตะวันยิ้ม  บอกถึงช๊อตประทับใจด้วยประกายตาสดใสว่า” บนเส้นทางแรลลี่ครั้งนี้ ผมชอบมากตอนที่ได้แวะไปที่ฟาร์มเห็ดในศูนย์ป้องกันและพัฒนาเด็ก พัทยา เพราะเป็นฟาร์มเห็ดที่สร้างโดยนักเรียนไทยและอีกหลายประเทศที่ได้เดินทางมาร่วมงานประชุมนานาชาติราวด์สแควร์ 2011 เมื่อ 3 เดือนก่อนนี้ โดยเขาได้ร่วมมือกันสร้างขึ้นไว้เพื่อเป็นแหล่งทำรายได้ให้ศูนย์ฯและเป็นอาหารสำหรับเด็กๆในศูนย์ฯด้วย เรายังได้ชิมอาหารหลายเมนูที่ทำจากเห็ดอร่อยมากและอิ่มใจที่ได้เห็นฟาร์มเห็ดแห่งนี้ทำประโยชน์ให้เยาวชนที่นั่นได้จริงๆ    ผมยังได้เอาสิ่งของที่เราล่าได้จากแรลลี่มามอบให้น้องๆที่ศูนย์ป้องกันและพัฒนาเด็ก อีกด้วย”                  
     จุดหมายปลายทางเส้นชัยของการล่าสมบัติอยู่ที่โรงแรมเซนทารา พัทยา เป็นช่วงเวลาที่ทีมแรลลี่กว่า 100 ทีมได้ผ่อนคลายและประลองฝีมือกับเกม 8 เกม เช่น เกมจับฟองสบู่ไม่ให้แตก, ปิดตา...โยนบอลลงราง.ยิงปืนฉีดน้ำ , เกมบอลสุดฮา, ปาเป้ามหาสมบัติ, เทนนิสเกมเศรษฐี เป็นต้น

                                
     ไฮไลท์เป็นการจัดประมูลสมบัติจากแรลลี่ ได้เงินทั้งสิ้น 150,000 บาท มอบให้โรงเรียนเขาบายศรี เพื่อนำไปใช้สมทบทุนปลูกสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นศูนย์ฝึกอาชีพสำหรับเด็กพิเศษบ้านเขาบายศรี    เนื่องจากทางโรงเรียนมีพื้นที่อยู่แล้วแต่ยังขาดงบประมาณในการซื้ออุปกรณ์ปลูกสร้างอาคาร
       อนาคตของเด็กพิเศษที่ป่วยด้วยออทิสติกจึงมีแสงสว่างแห่งความรู้เป็นประทีปนำทาง พร้อมไปกับความรักและความเอาใจใส่ของแพทย์ ครอบครัวและสังคมเป็นยาขนานเอก