เม็ดพลาสติกชีวภาพจากพืช ย่อยสลายได้ 100% คนไทยทำได้
เม็ดพลาสติกชีวภาพจากพืช ย่อยสลายได้ 100% คนไทยทำได้
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
นักวิจัยไทยทำได้แล้ว พร้อมเปิดตัว เม็ดพลาสติกชีวภาพ ต้นแบบ M-BIO พัฒนาจากพืช ย่อยสลายได้ 100% ผ่านการรับรองจากสถาบัน OWS
บริษัท Multibax Public Co., Ltd พร้อมเปิดตัว เม็ดพลาสติกชีวภาพ ต้นแบบ M-BIO ซึ่งเป็นการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพลาสติกชีวภาพ อันสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีเทียบเท่ากับพลาสติกที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน และนับเป็นความสำเร็จรายแรกของบริษัทของคนไทย โดยมีจุดเด่นตรงที่เป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ 100% มีส่วนผสมจากพืช และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการทดสอบจากสถาบัน OWS (Organic Waste Systems )ประเทศเบลเยี่ยม ในด้านการย่อยสลายในระดับห้องปฏิบัติการ ซึ่งผลที่ได้ในระยะ 8 สัปดาห์แรก
การทดสอบทำโดยการหมักด้วยปุ๋ยธรรมชาติของไบโอพลาสติก MBIO-1 ขนาด 10 ซม. * 10 ซม. ที่ความหนา 97 ไมครอน) พบว่า ระยะเวลา 8 สัปดาห์หลังจากการหมัก เหลือเศษพลาสติกชีวภาพน้อยกว่า 10 มม. และเมื่อตรวจสอบประสิทธิภาพในการย่อยสลายพบว่า MBIO ความหนา 97 ไมครอน สามารถย่อยสลายได้จนหมดภายในสัปดาห์ที่ 5
ในขณะที่ ของไบโอพลาสติก MBIO-2 ขนาด 10 ซม. * 10 ซม. ที่ความหนา 90 ไมครอน เมื่อหมักด้วยปุ๋ยธรรมชาติ ระยะเวลา 8 สัปดาห์หลังจากการหมัก เหลือเศษน้อยกว่า 10 มม. และประสิทธิภาพการย่อยสลายคือ สามารถย่อยสลายได้จนหมดภายในสัปดาห์ที่ 4
ความสำเร็จของบริษัท มัลติแบกซ์ ในครั้งนี้เริ่มต้นจากการรวมตัวของทีมนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาสถาบันการศึกษาของไทยและบริษัท มัลติแบกซ์ (มหาชน) จำกัด ในการเข้าสู่วงการพลาสติกชีวภาพ อย่างเต็มตัว โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2550 ด้วยการจัดตั้งแผนกค้นคว้าวิจัยเม็ดพลาสติกชีวภาพที่มีคุณสมบัติย่อยสลายได้ 100% ปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีการลงทุนเครื่องจักร และบุคลากรเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาไปไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ทดลองทดสอบและพัฒนาสูตรโดยมุ่งเน้นสรรหาวัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศ ดังเช่น “แป้งมันสำปะหลัง” ตราบจนถึงปี 2553 บริษัท ก็ประสบความสำเร็จสามารถผลิตเม็ดและถุงพลาสติกชีวภาพที่มีคุณภาพเทียบเท่าถุงพลาสติกที่ผลิตจากปิโตรเลียม จากนั้นจึงเริ่มเตรียมรายละเอียดและขอการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากสถาบันสำคัญในต่างประเทศ โดยส่งผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้เข้ารับการทดสอบจากห้องปฏิบัติการมาตรฐานสากล สถาบัน OWS (Organic Waste Systems) ในประเทศเบลเยี่ยม ตามมาตรฐานการย่อยสลาย EN 13432 เพื่อให้ได้ผลทดสอบที่จะนำไปขอมาตรฐานการรับรองการย่อยสลายทางชีวภาพต่อไป ซึ่งการรับรองมาตรฐานนี้ อันได้แก่ DIN CERTCO ประเทศเยอรมัน และ Vincotte ประเทศเบลเยี่ยม เพื่อใช้ตราสัญลักษณ์นำไปแสดงมาตรฐานได้ทั่วโลก ซึ่งบริษัทฯ จะเป็นรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองในการผลิตพลาสติกย่อยสลาย
เม็ดพลาสติก M-BIO ที่คิดค้นและผลิตได้ในครั้งนี้ นับเป็นความแตกต่างและข้อได้เปรียบจากผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพรายอื่นๆ ตรงที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติในประเทศเป็นหลัก ซึ่งประเทศไทยนั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัถตุดิบจากการเกษตร ดังเช่น มันสำปะหลัง ซึ่งจะทำให้ไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบในอนาคตอีกด้วย สำหรับสูตรที่คิดขึ้นมีหลายสูตรการผลิตด้วยกัน ทุกขั้นตอนของการผลิตนั้นมีความซับซ้อนต้องอาศัยความทุ่มเท ความรู้ ความเข้าใจ บุคคลากรเฉพาะทาง การลงทุน เวลา และค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นอย่างมาก
สิ่งที่ลงทุนและเริ่มการผลิตไปแล้วเมื่อนำไปใช้งานก็จะทำให้ขยะพลาสติกไม่ล้นเมือง หรืออาจนำเม็ดพลาสติกM-BIO ไปพัฒนาเป็นของเด็กเล่น หรือถุงใส่อาหาร หรือภาชนะอื่น ๆ ซึ่งใช้แทนพลาสติกจากปิโตรเลียมได้หลากหลายและจะทำให้อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของไทยโดดเด่นขึ้นมาทีเดียว อย่างไรก็ตามการนำเม็ดพลาสติก M-BIO ไปขึ้นรูปต้องอาศัยโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งสำหรับบริษัท มัลติแบกซ์นั้นอยู่ในฐานะผู้ผลิตต้นน้ำหรือเป็นผู้ป้อนวัตถุดิบให้เท่านั้น ดังนั้นหน่วยงานหรือองค์กรเอกชนใดสนใจจะเข้ามาร่วมพัฒนาหรือต่อยอดธุรกิจของท่าน บริษัท มัลติแบกซ์ (มหาชน) จำกัด ก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่
หากมอง ในแวดวงวิทยาศาสตร์และแวดวงอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของไทยขณะนี้ ทุกฝ่ายซึ่งได้แก่ภาครัฐและเอกชนนั้นกำลังพุ่งเป้ามาที่พลาสติกชีวภาพ ซึ่งไทยมีศักยภาพทำได้และต่อไปคงเป็นเรื่องของหน่วยงานภาครัฐที่จะให้การสนับสนุนทั้งเรื่องกฎหมาย และช่องทางการนำเม็ดพลาสติกชีวภาพไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ว่าจะเป็นทางด้านการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสามารถเข้าสู่ตลาดคาร์บอนเครดิตได้เป็นอย่างดี
กิจการของบริษัท มัลติแบกซ์ จำกัด(มหาชน) ถือได้ว่ามีการพัฒนาศักยภาพขององค์กรและผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วเพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่นๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้านราคา ความสามารถในการผลิต รวมทั้งการจัดการทรัพยากรในบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ องค์ความรู้ต่างๆ ที่บริษัทฯ มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการค้นคว้าวิจัยพลาสติกชีวภาพ (Biopolymer) เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดในระดับอุตสาหกรรมสร้างความแข็งแกร่งและเป็นผู้นำในการกำหนดทิศทางการใช้สินค้าจากพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพและพร้อมที่จะร่วมมือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาศักยภาพของประเทศไทยในเรื่องของธุรกิจสีเขียวต่อไป
ที่มา:กรุงเทพธุรกิจออนไลน์