8 โรงงานสีเขียวนิคมฯมาบตาพุดเปิดให้ 33 ชุมชน เยี่ยมชม

กรุงเทพฯ 2 เม.ย.- นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานกลุ่มเพื่อนชุมชน กล่าวว่า "เพื่อนชุมชน" ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นำโดย กลุ่ม ปตท. เครือเอสซีจี บีแอลซีพี ดาว เคมิคอล และ โกลว์ และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมเปิด 8 โรงงานสีเขียว ให้ 33 ชุมชนในเขตมาบตาพุดจำนวนกว่า 400 คน เข้าเยี่ยมชมเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามแนวคิด "เพื่อนใกล้ชิด มิตรใกล้บ้าน…โรงงานสีเขียว" ทั้งนี้เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานของโรงงาน โดยเฉพาะการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีความตั้งใจจริงในการดำเนินงาน และพร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ จากชุมชน เพื่อนำมาปรับปรุงการบริหารงานให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย( กนอ.) ติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นิคมฯ มาบตาพุดต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่กำหนด ทั้งคุณภาพน้ำ อากาศ ด้วยการติดตั้งระบบตรวจวัดออนไลน์ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีทันสมัย มีสัญญาณเชื่อมโยงไปยังศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และมีการแสดงผลออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้ชุมชนได้มีส่วนเข้ามาเฝ้าระวังด้วยตนเองเพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้น

สำหรับ 8 โรงงานที่เปิดให้ประชาชนเยี่ยมชมได้แก่ บริษัท โกลว์ จำกัด บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด บริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ บริษัท ปตท เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ในกลุ่ม ปตท. บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด และ บริษัท สยามยูไนเต็ดสตีล (1995) จำกัด รวมทั้ง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ในอนาคตกลุ่มเพื่อนชุมชนมุ่งหวังที่จะขยายความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการและโรงงานต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยจะเชิญชวนให้มาร่วมเป็นสมาชิกและร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างจริงใจและจริงจัง ทั้งนี้ กลุ่มเพื่อนชุมชน ได้วางแผนที่จะจัดกิจกรรมเปิดบ้านอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้ชุมชนได้หมุนเวียนกันเข้ามาเยี่ยมชมและตรวจสอบโรงงานอย่างทั่วถึง" นายวีรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับแผนงานปี 2553-2555 กลุ่มเพื่อนชุมชนได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ประมาณปีละ 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินการในภารกิจสำคัญที่จะยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับสารอินทรีย์ระเหย (VOCs )นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะสร้างเครือข่าย VOCs ให้แข็งแกร่ง โดยสร้างความเข้าใจกับชุมชนและแลกเปลี่ยนข้อมูลให้ผู้ประกอบการนอกนิคมอุตสาหกรรม และร่วมกันสร้างมาตรฐานความรู้ในการจัดการ VOC เป็นต้น ขณะเดียวกัน กลุ่มเพื่อนชุมชนยังได้ริเริ่มและสนับสนุนโครงการเพื่อการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อเติมเต็มในเรื่องซึ่งชุมชนมีความต้องการอย่างแท้จริง ได้แก่ ในด้านการศึกษา และการดูแลสุขภาพ ความเจ็บป่วย โดยมีโครงการสำคัญอย่าง การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ที่ครอบคลุมถึง 89 ชุมชนในเขตพื้นที่ควบคุมมลพิษ การสนับสนุนทุนนักเรียนพยาบาล จำนวน 200 คน เพื่อเติมเต็มบุคลากรด้านการแพทย์ในพื้นที่ และจัดกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ ค่ายภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาด้านการเรียนรู้และการศึกษาให้กับลูกหลานระยอง.- สำนักข่าวไทย

ที่มา: http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=408787&ch=ec1