กรุงไทยหนุนพลังเยาวชนต้นกล้าสีขาวพลิกฟื้นเศรษฐกิจชุมชน
กรุงไทยหนุนพลังเยาวชนต้นกล้าสีขาวพลิกฟื้นเศรษฐกิจชุมชน
"เรามุ่งเน้นการเรียนรู้ การให้แนวคิด ให้ประสบการณ์ และให้โอกาสในการปฏิบัติเป็นตัวตั้ง ขณะที่การให้งบประมาณตั้งต้นเป็นตัวสนับสนุน ซึ่งนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้พิสูจน์ให้เห็นว่า หากเราให้เขาอย่างถูกทาง ต้นกล้าที่กำลังเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ในไม่อีกกี่ปี จะเป็นต้นกล้าสีขาว ที่มีทั้งความดีงาม และความสามารถ ในการนำศักยภาพที่เขาและเพื่อนๆ มี ออกมาใช้ เพื่อเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อตัวเขา และต่อสังคม"
เหตุผลที่ สันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท ธนาคารกรุงไทย จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างทุนทางปัญญา พัฒนากิจกรรมที่นักศึกษาได้ริเริ่มให้มีการต่อยอดอย่างยั่งยืน โดยจัดโครงการประกวด "กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว" ประจำปี 2553 ซึ่งดำเนินงานต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ ปีนี้มีนักศึกษาที่เข้าร่วม 87 สถาบัน นักศึกษากว่า 3,000 คน แบ่งได้ 486 ทีม คัดเลือกให้เหลือ 109 ทีมให้การอบรม ให้ความรู้ ใน White Camp เกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง และจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ หลังจากนั้นคัดเหลือ 40 ทีม เข้ารับทุนตั้งต้นทีมละ 1 หมื่นบาท
"กิจกรรมทั้งหมดมุ่งเน้นใน 4 มิติ คือ การศึกษา สังคมสิ่งแวดล้อม ศิลปวัฒนธรรม และกีฬา นักศึกษาได้ลงพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน โดยการศึกษาสภาพปัญหา และช่องว่างที่สามารถนำความรู้ความสามารถเข้าไปช่วยเหลือชุมชน อาทิ การพัฒนาอาชีพ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งปีนี้ได้ทำครอบคลุมมิติด้านการเกษตร สิ่งแวดล้อม พัฒนาธุรกิจ พัฒนาหัตถกรรม ส่งเสริมความรู้ให้คนในชุมชน ให้เยาวชนมีความรู้ รวมถึงการรู้จักใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการขยายตลาด" สันติ กล่าว
ศิริภรณ์ อิ่มรักษา หรือ น้องน้อง หนึ่งในสมาชิก ทีมมาตุ้มมาโฮม ที่ชนะเลิศการแข่งขัน "กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว" มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) เล่าว่า มีสมาชิก 5 คน ได้แก่ นายวรุตม์ ไกยสวน 2.น.ส.ภัสราภรณ์ เวียงใต้ 3.น.ส.ปิยะลักษณ์ สิงห์ทองทัศน์ 5.น.ส.บุษยาภรณ์ ขินานา โครงการที่ส่งเข้าประกวดคือ "นางเล็ดนางลอด ทางรอดชุมชน" คือ ขนมนางเล็ดสูตรน้ำแตงโม ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร หมู่บ้านตะคุ เคยเป็นสินค้าระดับ 5 ดาว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นมาตั้งแต่อดีต แต่ขาดการพัฒนาผลิตภัณฑ์การยอมรับจากผู้บริโภค จึงทำให้ผลิตภัณฑ์เหลือระดับ 1 ดาว โครงการจึงมุ่งเน้นให้ชุมชนมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการวางแผนธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน โดยทีมเข้าไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมนางเล็ด ให้มี 4 สี ได้แก่ สีเขียวจากใบเตย สีเหลืองจากดอกคำฝอย สีขาวจากชาใบหม่อน และสีชมพูจากน้ำแตงโม
"ภูมิใจที่มีส่วนช่วยให้ชุมชนมีชีวิตดีขึ้น จากเดิมรายได้อยู่ที่หลักพัน สินค้าอยู่ในระดับ 1 ดาว แต่ปัจจุบันอยู่ในหลักหมื่น และเพิ่มคุณภาพมาเป็น 5 ดาว นอกจากการได้ช่วยชาวบ้านแล้วเรายังได้เรียนรู้การทำงานในการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์จากการใช้สีธรรมชาติ ไม่สิ้นเปลืองเงินซื้อสีจากโรงงาน" ศิริภรณ์ เล่าอย่างภาคภูมิใจ
อ.อมฤต สมพงษ์ ที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า การทำโครงการเริ่มต้นโดยการอธิบายให้นิสิตเข้าใจก่อนว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" คืออะไร ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาจะต้องให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่อง ชี้แนะโดยการให้เด็กเห็นและเรียนรู้ปัญหาด้วยตนเอง และนำปัญหากลับมาแก้ไขร่วมกันในทีมของเขา ซึ่งเป็นแนวทางที่จะทำให้เขารู้จักการแก้ไขด้วยตนเอง ที่สำคัญสอนนิสิตอยู่เสมอว่าสังคมที่ดีก็จะตามมาเมื่อมีต้นกล้าที่พร้อมจะแผ่กิ่งใบปกคลุมให้ร่มเงา ช่วยให้สังคมพ้นจากแดดที่คอยจะแผดเผาอยู่ตลอดเวลา และ "หากเราทำเพื่อสังคม ในอนาคตสังคมก็จะให้ประโยชน์กลับคืนมาเอง" อ.อมฤต กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: http://www.komchadluek.net/