ปูนอินทรีจัดนิทรรศการสิ่งแวดล้อม กระตุ้นเยาวชนรักษ์โลก

ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ทำให้ทั่วโลกต่างหันมาใส่ใจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีหลากหลายกิจกรรม ที่สามารถปฏิบัติและช่วยลดผลกระทบต่อโลกได้ เช่น การปลูกต้นไม้, การรณรงค์ใช้รถยนต์เท่าที่จำเป็น การทำความสะอาดบ้านเรือน ชุมชน และสวนสาธารณะ เป็นต้น

นิทรรศการสิ่งแวดล้อม (Green Exhibition) ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด โรงงานน่าอยู่ คู่หัวใจสีเขียว (Green Heart Society) ณ บริเวณโรงงานผลิตปูนอินทรี จ.สระบุรี เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่บริษัทได้ดำเนินการ และสร้างความตื่นตัวในการรับรู้ ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงาน ผู้รับเหมา และชุมชน ให้สามารถนำความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

นายฟิลิป อาร์โต้ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง กล่าวว่า เรื่องสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นประเด็นสำคัญที่มวลมนุษยชาติให้ความสำคัญ เพราะมนุษย์ได้อาศัยและใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมในการอยู่รอดของชีวิต มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ดังนั้นการกระทำของมนุษย์จึงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในทางสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นหรือในทางทำลายให้เลวลง เกิดขึ้นทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะผูกพันเชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ สำหรับกิจกรรมจำนวนกว่า 20 บูธ ที่จัดขึ้นภายใต้นิทรรศการครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางภายใต้แผนการพัฒนาที่ยั่งยืนของบริษัท ซึ่งนอกจากเผยแพร่ผลงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของปูนอินทรีแล้ว ยังมีกิจกรรมการเรียนรู้อีกมากมาย อาทิ ธนาคารเพื่อโลกน่าอยู่คู่หัวใจสีเขียว (Green Bank) ซึ่งจะเป็นการรับฝากขยะจากพนักงานบริษัทก่อนนำไปคัดแยกและรีไซเคิลนำกลับมาใช้ใหม่, การสร้างเครื่องอัดไฮดรอลิกจากวัสดุเหลือใช้, การนำผงฝุ่นจากโรงงานมาผลิตเป็นบล็อกประสาน, นวัตกรรมบ้านประหยัดพลังงาน ฯลฯ พร้อมกันนี้ภายในงานยังแจกต้นประดู่แดง จำนวน 500 ต้น และหากประดู่แดงเหล่านี้โตขึ้นจะช่วยดูดซับคาร์บอนได้ถึง 12.5 ตัน ซึ่งเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังปลูกฝังการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนโดยรอบโรงงานด้วยการจัดประกวดวาดภาพภายใต้หัวข้อ โรงงานน่าอยู่ คู่หัวใจสีเขียวอีกด้วย

ด.ญ.วัชรี ทองรัศมี นักเรียนชั้น ป.6/2 โรงเรียนชุมชนนิคมทับกวางสงเคราะห์ 1 กล่าวถึงนิทรรศการที่ได้เยี่ยมชมครั้งนี้ว่า ชอบตัวมัสคอตที่คุณลุงพนักงานแต่งเป็นโลกที่ถูกทำร้าย และอีกคนแต่งเป็นโลกที่ได้รับการดูแลอย่างดี ซึ่งทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนว่า โลกที่ถูกทำร้ายหน้าตาเป็นอย่างไร และโลกที่ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมหน้าตาเบิกบานยิ้มแย้มมีความสุขขนาดไหน ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันดูแลโลกค่ะ ทุกคนจะได้มีความสุขบนโลกใบนี้

อีกหนึ่งสาวน้อยจากโรงเรียนเดียวกัน ด.ญ.พัชรินทร์ ณ น่าน นักเรียนชั้น ป.5/1 กล่าวว่า นอกจากความรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ได้รับแล้ว ต้นไม้ที่ได้รับแจกในวันนี้จะนำไปปลูกที่บ้าน อย่างน้อยก็ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ลดโลกร้อนได้อีกแรงหนึ่ง สำหรับวิธีช่วยลดโลกร้อนของหนู ถ้าเป็นที่บ้าน หนูจะปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวไหนที่ไม่ได้ใช้จะได้ช่วยประหยัดไฟฟ้า และจะช่วยกันแยกขยะ ที่โรงเรียนก็มีการแยกขยะค่ะ

ขณะที่ ด.ญ.ศิริลักษณ์ เลี่ยมไข่ต่วน นักเรียนชั้น ม. 3/2 โรงเรียนเดียวกัน กล่าวถึงวิธีรักษ์โลกของเธอว่า นอกจากปลูกต้นไม้แล้ว เวลารีดเสื้อผ้าจะรีดทีละเยอะๆ ช่วยประหยัดไฟฟ้า ที่สำคัญประหยัดค่าไฟฟ้าช่วยที่บ้านได้ด้วย ตอนนี้อากาศบนโลกเราร้อนมาก ถ้ารักโลกก็ช่วยกันดูแลโลกเราด้วยนะค่ะ

เป็นคำกล่าวทิ้งท้ายของน้องๆ จากโรงเรียนชุมชนนิคมทับกวางสงเคราะห์ 1 ที่ต่างช่วยกันคนละไม้ละมือในการดูแลรักษาโลกใบนี้ได้ไม่น้อยหน้าผู้ใหญ่เลยทีเดียว

ที่มา: http://www.banmuang.co.th/bkk.asp?id=242275