COVID-19 : ภาคเอกชนจะช่วยสังคมได้อย่างไร
นวัตกรรมสังคมองค์กรณ์สร้างประโยชน์ต่อสังคมได้ เช่นเดียวกันกับการสร้างผลลัพธ์ที่ดีทางธุรกิจ ตั้งแต่การดูแลสุขภาพจิตรวมไปถึงการเงินของพนักงาน Starbucks และ Microsoft เป็นผู้ริเริ่มการช่วยเหลือพนักงานในวิกฤตการณ์นี้ ผู้นำทางด้านธุรกิจอื่นๆ เช่น Amazon และ Google กำลังวางแผนสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่น
ขณะนี้ทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลก ต่างได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากกระระบาดครั้งใหญ่ที่คาดเดาไม่ได้ของ COVID-19 ที่ผ่านมาองค์กรณ์ต่างๆเลือกที่จะถอยหลังมาในสถานการณ์แบบนี้ อย่างไรก็ตามบทบาทของภาคธุรกิจได้เปลี่ยนไปและ ‘วิถีทุนนิยมที่เอื้อต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มในระบบเศรษฐกิจ’ (Stakeholder Capitalism) ได้กลายมาเป็นกระแสหลักในการดำเนินธุรกิจ สร้างความท้าทายให้องค์กรณ์ที่จะแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมสังคมองค์กรณ์จะเอื้อประโยชน์ต่อสังคมอย่างไร
(Image: Reuters//Andrew Kelly)
นวัตกรรมสังคมองค์กรณ์มีทั้งในรูปแบบการทำการกุศล การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนโยบายสาธารณะ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม รวมไปถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรณ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่เป็นที่ต้องการในสังคม หากบูรณาการนโยบายเหล่านี้เข้าด้วยกัน จะสามารถสร้างประโยชน์กับสังคม รวมทั้งผลลัพธ์ที่ดีทางธุรกิจอีกด้วย เป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้นำทางธุรกิจเห็นความสำคัญของนวัตกรรมสังคมองค์กรณ์ โดยเน้นการสนับสนุน 3 ด้านหลักดังนี้
- ดูแลสุขภาพจิต หลายบริษัทเอกชนรวมไปถึงหน่วยงานของภาครัฐอนุญาติให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ นอกจากนี้ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อยังแนะนำให้ยกเลิกการจัดงานที่มีการรวมตัวกันมากกว่า 50 คน การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เป็นหัวใจหลักในการลดการแพร่ระบาดของ Coronavirus ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อสุขภาพจิตของพนักงาน หน่วยงาน เช่น Starbucks ให้ความสำคัญด้านการดูแลสุขภาพองค์รวมของพนักงาน จัดให้มีชั่วโมงบำบัด 20 ชั่วโมงแก่พนักงานทุกคน นอกจากนี้บริษัทโทรคมนาคมหลายแห่งในสหรัฐอเมริการ่วมกันเซ็นข้อตกลง KEEP AMERICANS CONNECTED เพื่อสร้างความมั่นใจว่าชาวอเมริกันทุกคนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง
- สร้างความมั่นคงทางการเงิน จากการที่บริษัทห้างร้านปิดตัวลงชั่วคราว รวมไปถึงโรงงานฝ่ายผลิตลดชั่วโมงการทำงาน องค์กรณ์ต่างๆให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนทางด้านการเงินให้กับพนักงานรายชั่วโมง อย่างเช่น Lululemon ซึ่งปิดร้านค้าในอเมริกาเหนือชั่วคราว จะยังคงจ่ายค่าจ้างให้พนักงานและช่วยเหลือเรื่องการรับเงินกองทุนสงเคราะห์ ส่วน Microsoft จ่ายเงินพนักงานเต็มจำนวนแม้ว่าชั่วโมงการทำงานจะลดลง ทางด้าน Walmart, Apple และ Olive Garden กำลังปรับนโยบายลาป่วยเพื่อช่วยรองรับพนักงานที่ต้องการความช่วยเหลือ
- สนับสนุนธุรกิจรายย่อย อ้างอิงจาก Wall Street Journal ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของหน่วยงานขนาดเล็กลดลงอย่างมาก องค์กรณ์ขนาดใหญ่ มีนโยบายช่วยเหลือธุรกิจรายย่อย เช่น Amazon จัดตั้งกองทุนสงเคราะห์จำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 165 ล้านบาทไทย) สำหรับธุรกิจในท้องถิ่น Google สนับสนุน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 33 ล้านบาทไทย) ให้กับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในเมือง Mountain view, California มหาเศรษฐี Mark Cuban ออกเงินค่าอาหารกลางวันและกาแฟให้กับพนักงานที่บริโภคจากร้านค้าในท้องถิ่น
ถึงแม้ว่าผลกระทบของ COVID-19 ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่มันก็ส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันของเราเป็นสัปดาห์หรือนานเป็นเดือน ภาคส่วนต่างๆสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในช่วงวิกฤตินี้ได้ โดยการเตรียมยุทธศาสตร์และนำออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งจะส่งผลถึงความสำเร็จระยะยาวโดยการช่วยเหลือพนักงาน ลูกค้าและภาพรวมเศรษฐกิจ
ที่มาของข้อมูล : https://www.weforum.org/agenda/2020/03/coronavirus-and-corporate-social-innovation/