http://www.csrcom.com/
True ปลูกปัญญา

โครงการ?แบ่งปัน 1 วันใน 1 ปี?...แบ่งเรื่องของคุณ...โดย thosang

บทความ

โครงการแบ่งปัน 1 วันใน 1 ปี...แบ่งเรื่องของคุณ...โดย thosang

ทีมงานCSRcom.com ขอแนะนำบทความดีๆจากโครงการ แบ่งปัน1วันใน1ปี ผ่านหัวข้อ” แบ่งเรื่องของคุณ”ซึ่งเขียนโดยคุณthosangและยังมีเรื่องราวอีกมากมายติดตามกันได้ที่ http://www.1day1year.com/main.php?skip=1

ติดตามเรื่องราวดีๆ จากคุณ thosang ได้เลยครับ

volunteerspirit (เครือข่ายจิตอาสา) : "น้ำใจที่ไม่มีเงื่อนไข มนุษยธรรมที่ไม่มีประมาณ คือเครื่องวัดความเป็นมนุษย์ที่แท้ ทำให้เราไปพ้นขีดจำกัดด้านเชื้อชาติ ภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม เห็นมนุษย์เป็นเพื่อนและพี่น้องเสมอกัน...พระไพศาล วิสาโล"

"ว้าววววว ^0^" ฉันตาโตลุกวาวด้วยความตื่นเต้น กับการสนใจข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับงานอาสา

"สร้างบ้านดิน ปลูกป่า สอนหนังสือ พัฒนาชุมชน ดูแลเด็ก คนชรา ผู้พิการ ฯลฯ" กิจกรรมมากมายเหล่านี้ ล้วนแต่อยากทำตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย กับพวกชมรมค่ายอาสาต่างๆ แล้วมันก็ผ่านไปกับการเรียน ทำงานพาททาม และกิจกรรมของชมรมอื่น จนลืมเลือน...

"พรุ่งนี้จะเป็นวัน Big Cleaning Day ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องออกมาทำความสะอาดกรุงเทพฯบ้านของเรากัน..." หลังจากที่นั่งเฝ้าหน้าจอทีวี จอคอมฯ คอยติดตามข่าวสารระวังภัย จนมาถึงข่าวนี้ ฉันก็ sms หาเพื่อนที่ฉันรู้จักทุกคน เพื่อชวนออกมาสนุกกับการทำความสะอาดกรุงเทพฯกัน แต่เพราะกระทันหันจึงมีเพื่อนว่างเพียงคนเดียว

"สนุกดีเนอะ แต่ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากเลย เพราะคนมาช่วยกันเยอะมากๆๆ" ฉันกับเพื่อนคิดเห็นเหมือนกัน ก่อนจะตบท้ายให้รางวัลกับการทำดีของตัวเองที่ฟูจิ โฮะๆ ^0^

หลังจากนั้น ความเคลื่อนไหวในเฟสบุ้ค ที่ฉันเพิ่งเล่นไม่นาน ก็มีการจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาอีกหลายกลุ่ม แล้วฉันก็ได้เข้าร่วมติดตามข่าวสาร จนมาได้ทำกิจกรรมแรก ที่น้องๆจากธรรมศาสตร์จัดตั้งขึ้นโดยใช้ชื่อกลุ่มว่า "Big Cleaning Day of Thailand" ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้ฉันและเพื่อนๆอีกหลายคนได้เข้าใจและใกล้ชิดผู้พิการทางสายตามากขึ้น มีชื่อกิจกรรมว่า "Close your eyes - Clean your heart"

ฉันมาคนเดียว แต่ก็มาเจอเพื่อนที่รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างในกิจกรรมนี้ เค้าให้ทำอะไรบ้าง ก่อนอื่นเค้าก็สอนวิธีการพาคนตาบอดเดิน สอนวิธีพาเค้านั่ง สอนวิธีการดูแลเค้า แล้วก็จัดเป็นกลุ่มเล็กๆโดยให้พาคนตาบอดเดินเล่นเรื่อยๆที่สวนลุม โดยมีการพูดคุยกัน บรรยายภาพที่เรามองเห็น ทานข้าวร่วมกัน เล่นเกมเขียนอักษรเบลล์ โดยที่คนตาบอดจะบอกรหัส ส่วนเราจะเป็นคนเขียน (ทีมเราชนะด้วยแหล่ะ คริๆ) เล่นเกมปิดตาเดิน โดยที่เราจะโดนปิดตา แล้วให้คนตาบอดพาเราเดิน (เสียวมากเกมนี้ ฮ่าๆ) จนจบกิจกรรมแล้วส่งเค้าขึ้นรถกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ...

มหัศจรรย์มาก จากที่ฉันเคยกลัวพวกเค้าเวลาเจอ กลัวแบบไม่รู้จะช่วยเค้ายังไง ไม่รู้จะคุยยังไง เค้าจะกลัวเรามั้ย ฉันกลายเป็นคนที่วิ่งเข้าหาคนตาบอดไปซะแล้ว ถึงพวกเค้าจะต้องการความช่วยเหลือบ้างในบางครั้ง แต่รู้มั้ย เค้าสามารถดูแลตัวเองได้ดีมากๆ ก่อนที่เราจะช่วยเหลืออะไรเค้า ลองถามเค้าก่อนนะคะว่า "มีอะไรให้ช่วยมั้ย" บางครั้งเค้าอาจจะแค่ยืนรอเพื่อนเฉยๆโดยที่ไม่ได้อยากเดินไปไหนก็ได้

กับน้องๆกลุ่มนี้ก็มีกิจกรรมมาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมกับคนตาบอดเสมอ กิจกรรมแรกอาจจะแค่ให้เราได้รู้จักโลกของเค้ามากขึ้น แต่หลังจากนั้น จะเป็นการดูแลเค้าจริงๆ เวลาทางโรงเรียนสอนคนตาบอดจัดงานเลี้ยง หรืองานอะไรที่ต้องการอาสาฉันก็เข้าร่วมด้วยเสมอ จนจำหน้าบางคนได้แล้ว อ๊ะ!! บางคนเค้าก็จำเราได้นะ ประสาทสัมผัสทางหูเค้าดีมากเลยล่ะ ^^

และนี่ก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็น "อาสา" เต็มตัว ไม่ว่าจะมีงานรับสมัครอาสาอะไร ถ้าสะดวกที่ฉันจะไป ฉันก็ยินดีมากๆ แล้วก็ชักชวนเพื่อนๆเสมอ ทำให้เราได้รู้จักโลกของคนอื่น รู้จักเพื่อนมากขึ้น และที่สำคัญรู้จักการแบ่งปันที่ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ

กิจกรรมล่าสุดที่ฉันได้ทำ คือ ไปช่วยแพ็คถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยทางภาคใต้ กับทางช่อง 9 และกลุ่มอาสาดุสิตค่ะ เป็นอะไรที่สนุกมากๆ ฉันนี่สงสัยจะชอบออกแรงนะนี่ ฮ่าๆ สนุกจนแขนเคล็ดไปหลายวันเลยทีเดียว เนื่องมาจากตักข้าวสารแพ็คผิดท่านั่นเอง - -"

แล้วยังได้ไปดูแลคนตาบอด (อีกแล้ว) แต่งานนี้ผู้สูงอายุจะเยอะหน่อย ทำให้ฉันใจเย็นลงได้เยอะเลย จากที่เดินก้าวขายาวๆ ฉันต้องก้าวสั้นมากในยามที่พาคุณตาคุณยายที่ตาบอดไปเข้าห้องน้ำ (แอบพาหลงด้วย คิดซะว่าเดินเล่นนะคะ แหะๆ ^^')ส่วนกิจกรรมต่อๆไป ก็ตามวาระและโอกาสที่มีค่ะ รวมถึงที่ลงชื่อไว้กับที่นี่ด้วย

หลายคนคงเคยรู้สึกว่า "ฉันเกิดมาเป็นผู้ให้" แล้วทำไมเราต้องให้แค่ตัวเรา ครอบครัว เพื่อนฝูงและคนรัก (เชื่อเลยว่าต้องมีหวังอะไรบ้างแหล่ะ) แต่นี่ไง เราให้เพื่อนร่วมโลกเดียวกัน เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยที่ไม่หวังผลตอบแทน เป็นการให้ที่ทำให้ฉันมีความสุขที่สุดเลยล่ะ

"จิตอาสา" มีอยู่ในตัวเราทุกคน อยู่ที่ว่าคุณจะดึงออกมาใช้ในเวลาไหน และมากน้อยแค่ไหน บางทีคุณอาจจะให้หรืออาสาทำอะไรไปบ้างโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะคะ จริงๆแค่ทำให้คนรอบข้างมีความสุข ส่งผลให้ตัวคุณเองก็มีความสุข นี่ก็เป็นอาสาแล้วนะคะ "อาสาให้ความสุข" ไง

เหมือนคำโฆษณาที่ว่า "การให้ที่ยิ่งใหญ่คือ การให้ต่อไปไม่รู้จบ" ^^…

อ่านจบแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ...แต่สำหรับผม มันเกินคำว่ารู้สึกดีซะอีก...ทีมงานCSRcom.com

 

 

aphondaworathan